รมว.เกษตรและสหกรณ์ สั่งกรมชลฯ เร่งเสริมกำลังดับไฟป่าพรุควนเคร็ง เมืองคอน ส่งเครื่องสูบน้ำ เครื่องจักรกล ขุดลอกวัชพืชเปิดทางน้ำไหลเข้าพื้นที่ป่าพรุ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.62 ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลฯ ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 18 เครื่อง เพื่อเร่งสูบน้ำเข้าสู่ป่าพรุควนเคร็ง เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟที่ลุกโหมอยู่ขยายวงกว้าง โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำเข้าพื้นที่ตำบลเคร็ง ตำบลชะอวด ตำบลบ้านตูล อำเภอชะอวด ตำบลควนชะลิก อำเภอหัวไทร และตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ นอกจากนี้ ยังได้นำเครื่องจักรกลรถขุด 4 คัน เข้าทำการขุดลอกวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำเพื่อเปิดทางให้น้ำไหลเข้าสู่พื้นที่ป่าพรุได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านเนื่องจากไฟได้ลุกลามเข้ามาถึงอำเภอเชียรใหญ่ ทำให้การสัญจรตามถนนหนทางไม่สะดวกเนื่องจากมีกลุ่มควันจำนวนมากเข้าปกคลุมพื้นที่ "นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้กำชับให้กรมชลประทาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้มาตรการต่าๆ เพื่อป้องกันและควบคุมไฟป่า ซึ่งขณะนี้ร่วมกันจัดทำแนวกันไฟพื้นที่โดยรอบ จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและขอให้มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งให้ความร่วมมือในการป้องกันและดับไฟให้สำเร็จเร็วที่สุด"อธิบดีกรมชลประทาน กล่าว ป่าพรุควนเคร็ง เป็นป่าพรุที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากป่าพรุสิรินธร หรือป่าพรุโต๊ะแดง ในจังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 223,320 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติประมาณ 165,825 ไร่ และเป็นป่าถาวรตามมติ ครม.ประมาณ 57,495 ไร่ สำหรับสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ป่าพรุในครั้งนี้ คาดว่าเกิดจากการที่ชาวบ้านเข้าไปจุดไฟในพื้นที่ของตัวเอง และไม่สามารถควบคุมไฟได้ จึงทำให้ไฟลุกลามเข้าไปในพื้นที่เขตป่าพรุดังกล่าว โดยมีจุดที่ลุกลามหนักจำนวน 2 จุด ได้แก่ พื้นที่หมู่ 4 ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ และพื้นที่หมู่ 12 ตำบลสวนหลวง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช