ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ลดการคาดการณ์ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2562 ลงมาอยู่ที่ 40.2 ล้านคน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ราคาน้ำมันสูงขึ้น และเงินบาทแข็งค่าขึ้น อันจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวในปีนี้ ดังนั้นทางอุตสาหกรรม โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมจำเป็นต้องเตรียมรับมือกับสภาวการณ์ที่ท้าทายดังกล่าว ทั้งนี้การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีจะช่วยให้อุตสาหกรรมเดินหน้าเติบโตได้ต่อไป ปัจจุบันการจองผ่านช่องทางออนไลน์ได้ขยายตัวในอัตราที่สูงอย่างน่าทึ่ง โดยมีมูลค่าตลาดในเอเชียแปซิฟิกที่เพิ่มจาก 4.181 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2557 (ประมาณ 12.9 ล้านล้านบาท) เป็น 5.403 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 16.7 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2565 นอกจากนี้สัดส่วนการจองการเดินทางผ่านออนไลน์จะเพิ่มจาก 44% เป็น 53% ในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้แม้ตลาดการท่องเที่ยวออนไลน์จะมีโอกาสเติบโตอย่างมหาศาล ทว่าการดำเนินงายังมีความซับซ้อนอยู่มาก รวบรวมคำที่ใช้ค้นหาเพื่อนักเดินทาง ทั้งนี้ นางสาว พิมพ์ปวีณ์ นพกิจกำจร ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการตลาดของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป กล่าวว่า มีจุดหมายปลายทางราว 2 ล้านแห่งทั่วโลกที่ผู้คนอยากเดินทางไปเยือน และมีที่พักมากกว่า 10 แบบให้บริการนักเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม เบดแอนด์เบรกฟาสต์ อพาร์ทเมนท์ บ้านต้นไม้ เป็นต้น นักเดินทางมักจะค้นหาที่พักโดยใช้คำค้นที่เกี่ยวข้อง เช่น รองรับครอบครัว สัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ รีสอร์ทริมชายหาด รวมถึงมองหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ไวไฟ สระว่ายน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะด้าน ดังนั้นทางเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป จึงได้รวบรวมคำที่ใช้ค้นกว่า 160 คำที่นักเดินทางนิยมใช้เวลาทำการค้นหาที่พัก ซึ่งในความเป็นจริงมีคำค้นถึง 3.2 พันล้านคำโดยรวม เพราะฉะนั้นด้วยคำค้นหาที่จำนวนมากเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบการในการเข้าถึงลูกค้า เนื่องจากถ้าผู้ประกอบการโรงแรมที่สามารถนำข้อมูลและเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ก็จะสามารถขับเคลื่อนธุรกิจ และอยู่ในตำแหน่งทางการตลาดที่ดีที่สุดในยุคดิจิตอล ดังนั้นทางเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปจึงลงทุนด้านวิทยาการข้อมูลเพื่อช่วยโรงแรมเพิ่มยอดจอง เพราะในแต่วันจะมีการค้นหากว่าหนึ่งพันล้านรายการและมีการอัพเดทจำนวนที่พักกว่า 2 พันล้านรายการบนแพลตฟอร์มของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงมีแพลตฟอร์มระดับโลกที่มีประสิทธิภาพ พร้อมข้อมูลนักเดินทางที่เข้าใจง่ายอยู่ในเครื่องมือและรายงานข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ประโยชน์ได้เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการโรงแรมไทยตัดสินใจทางธุรกิจได้ชาญฉลาดและดียิ่งขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีเป็นจำนวนเงิน 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.9 หมื่นล้านบาท) เพื่อพัฒนาระบบอัตโนมัติ โดยใช้ข้อมูลเข้ามาเสริมประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม เพื่อให้ระบบอัตโนมัติต่างๆ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและพาร์ทเนอร์มากกว่าที่เคย พัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลสำคัญ สำหรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้เข้าพักที่มีให้บริการแก่โรงแรมพาร์ทเนอร์ของ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป คือ เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญที่จะช่วยให้โรงแรมสามารถต่อยอดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลการจองของผู้เข้าพัก และเข้าใจจุดประสงค์ในการเดินทาง รวมถึงพฤติกรรมการจองของผู้เข้าพักได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้โรงแรมใช้โอกาสในการเข้าถึงลูกค้าและดึงดูดลูกค้าจากประเทศที่ต้องการ ตลอดจนสร้างรายรับเพิ่มขึ้นตามมา จากสถิติพบว่า 1 ใน 3 ของโรงแรมพาร์ทเนอร์ของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปทั่วโลกดูรายงานข้อมูลเชิงวิเคราะห์เป็นประจำทุกวัน ดังนั้นผู้ประกอบการโรงแรมไทยจึงจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจการท่องเที่ยวทางออนไลน์ โดย นางสาว พิมพ์ปวีณ์ กล่าวต่อว่า ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence/AI) และแมชชีนเลิร์นนิ่ง (Machine Learning/ML) เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของโรงแรม ซึ่ง แมชชีนเลิร์นนิ่ง เป็นเทคโนโลยีที่ทรงประสิทธิภาพและสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับธุรกิจ เนื่องจากเข้ามาช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ในอุตสาหกรรมและมอบแพลตฟอร์มระดับโลกอันทรงพลังอย่างเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปให้อยู่ในมือของผู้ประกอบการโรงแรมทุกขนาด ปัจจุบันแมชชีนเลิร์นนิ่งช่วยให้โรงแรมพาร์ทเนอร์ของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและเพิ่มรายได้ด้วยการคาดการณ์ความต้องการในการจองเพื่อประโยชน์ในการจัดการห้องพักในคลังของผู้ประกอบการ ตัวอย่างเช่น Rev+ ซึ่งเป็นเครื่องมือการจัดการรายรับที่เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปมีให้โรงแรมพาร์ทเนอร์ใช้งานได้ฟรี Rev+ ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบข้อมูลอัจฉริยะ นำไปใช้งานได้จริง และข้อมูลเชิงวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ จึงทำให้โรงแรมพาร์ทเนอร์เข้าถึงข้อมูลการคาดการณ์ เช่น ควรตั้งราคาอย่างไรโดยอ้างอิงจากคู่แข่ง ช่วงที่มีความต้องการจองห้องพักสูงและปัจจัยอื่นๆ ในตลาด ปัจจุบันมีโรงแรมกว่า 53,000 แห่งทั่วโลกใช้ Rev+ เป็นประจำเพื่อสร้างประโยชน์ทางธุรกิจจากกลยุทธ์การจัดการรายรับบนแพลตฟอร์มของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป และโรงแรมที่ใช้ Rev+ อย่างต่อเนื่องมีรายรับเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 20% เมื่อเทียบกับโรงแรมคู่แข่งที่ไม่ได้ใช้ Rev+ สามารถเพิ่มรายรับได้รวมกันถึง 28 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 865 ล้านบาท) ในอนาคตเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปจะพัฒนาปัญญาประดิษฐ์และแมชชีนเลิร์นนิ่งไปอีกขั้นโดยสร้างวิดีโอบอทให้คำแนะนำเฉพาะสำหรับโรงแรมพาร์ทเนอร์แต่ละ เพราะปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีได้สร้างรูปแบบของประสบการณ์โดยมีระบบอัตโนมัติต่างๆ รู้สึกหรือรับรู้ได้เหมือนมนุษย์มากขึ้นนั้นเอง