คุกแซมบาละเลงเลือด หลังแก๊งนักโทษสองกลุ่มยกพวกตะลุมบอนเดือด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 ศพ สุดสยองในจำนวนผู้เสียชีวิตพบร่างเหยื่อในสภาพถูกตัดคอถึง 16 ศพ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุจลาจลภายในเรือนจำอัลตามิรา รัฐปารา ทางตอนเหนือของประเทศบราซิล ส่งผลให้นักโทษในเรือนจำเสียชีวิตอย่างน้อย 57 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ ปรากฏว่า มีผู้ถูกตัดศีรษะ 16 ราย รวมถึงสิ่งปลูกสร้างในเรือนจำบางส่วนได้รับความเสียหายจากการถูกเพลิงเผาผลาญ โดยนายจาร์บาส วาสคอนเซลอส ผบ.เรือนจำแห่งรัฐปารา เปิดเผยว่า เหตุจลาจลเริ่มเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ของวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อนักโทษในเรือนจำ 2 กลุ่ม ได้ยกพวกต่อสู้กัน ระหว่างกลุ่มนักโทษที่เป็นสมาชิกแก๊งคอมมานโดเวอร์เมลโฮ ซึ่งเป็นแก๊งอาชญากรรมในนครริวเดจาเนโร กับกลุ่มนักโทษที่เป็นสมาชิกแก๊งคอมมานโดคลาสเอ อันเป็นแก๊งอาชญากรรมในรัฐปารา ที่เปรียบเสมือนเป็นเจ้าถิ่น พร้อมกันนี้ นายวาสคอนเซลอส ระบุว่า นักโทษสมาชิกแก๊งคอมมานโดคลาสเอ ได้จุดไฟวางเพลิงในส่วนที่เป็นที่พำนักในเรือนจำของพวกนักโทษแก๊งคอมมานโดเวอร์เมลโฮ โดยเพลิงได้โหมลุกไหม้ไปอย่างรวดเร็ว เนื่องในบริเวณดังกล่าว มีวัสดุที่ง่ายต่อการติดไฟ เพราะอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ก่อนที่กลุ่มนักโทษของทั้งสองแก๊ง จะยกพวกตะลุมบอนต่อสู้กัน ซึ่งในระหว่างเกิดเหตุ ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำ 2 นาย ได้ถูกนักโทษจับไปตัวประกัน แต่ถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา ผบ.เรือนจำแห่งรัฐปารา ยังเผยด้วยว่า เหตุจลาจลที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นการยกพวกต่อสู้กันระหว่างแก๊งนักโทษ 2 กลุ่ม ไม่ได้เกิดจากการลุกฮือ หรือประท้วง ต่อระบบของเรือนจำแต่ประการใด ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุทางการได้ส่งหน่วยผจญเพลิงเข้าไปดับเพลิงในเรือนจำ โดยเจ้าหน้าที่ฯ ต้องใช้เวลานานนับชั่วโมงกว่าจะควบคุมเพลิงไว้ได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่เรือนจำ เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุได้พบร่างนักโทษสียชีวิต จำนวนอย่างน้อย 57 ราย ในจำนวนนี้มี 16 ราย ศพอยู่ในสภาพถูกตัดศีรษะ และจากการตรวจค้นเรือนจำอย่างละเอียดไม่พบอาวุธปืน โดยพบแต่อาวุธมีดที่พวกนักโทษลักลอบนำเข้ามาในเรือนจำ