เพจเฟซบุ๊ค เชียร์ลุง โพสต์ข้อความจับผิด กรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายเรื่อง กระดุม 5 เม็ด ปมปัญหาเกษตรกรไทย ระบุข้อความว่า...
เห็นแชร์ชมกันมาก​ อย่าโดนส้มย้อมแมวค่ะ​ นึกภาพตอนกรี้สทักษิณใหม่ๆเอาไว้แล้วค่อยศึกษาสิ่งที่เราย้อนจริงมั้ย​ เค้าพูดเหมือนดีแต่พูดจากสิ่งที่้เค้าเล่าว่าหรืออ่านมา​ แม้กระทั่งลุงป๊อกชมแต่ชมแบบว่าอภิปรายแบบไม่ใช่พูดอะไรไร้สาระทำนองนั้น​ ถามในสิ่งที่ลุงป๊อกจะได้สอนเด็กและจัดไปเรียบร้อย​ ลุงสมคิดบอกนี่หลานเพื่อนสนิทผมน้องใหมใช่มั้ย​ ไอ้สิ่งที่คุณพูดอ่ะ​ อาคุณกับผมสนิทกันหมายถึงคุณผดุง​ ลิ้มเจริญรัตน์​ คนผมขาวๆเดินตามทักษิณตอนรุ่งเรือง​ ความสัมพันธ์แนบแน่นใช้ได้​ ลุงสมคิดพูดประโยคออกแนวสนิทสนมทักแบบว่ารู้ยันชื่อเก่าอ่ะสนิทแค่ไหน​ อารมณ์แบบชั้นรู้ธาตุแกนะ​ ​ แต่ผู้ใหญ่​ 2​ ท่านเป็นผู้ใหญ่สอนเด็กอยู่ในทีแบบผู้ดีพูดอ่ะ สิ่งที่ทิม​ พิธาเจ๋งคือรู้มุมกล่อง​ มีลีลาและไม่จับสคริปท์เลย​ ทำเหมือนเซียน​ แต่ข้อมูลไม่เนียนสำหรับคนอยู่วงการเกษตร​ แต่หลอกคนชอบคนพูดเพราะได้สบายโดยเฉพาะคนไทย​ ยิ้ม​ พูดเพราะ​ มีมรรยาท​ หน้าตาสะอาดสะอ้านหน่อยใจละลายแล้วจร้า​ เชื่อโดยไม่หาข้อมูลพูดละ​ ไม่ได้ยินละสิ่งที่ 2​ ลุงสอนมวยไป​ การพูดยิ้มๆแบบนักธุรกิจมันดูฉลาด​ ลงพื้นที่นิดๆเอาตรงโน้นมาจับแพะชนแกะตรงนี้​ +ทฤษฎีกับคำหรูๆหน่อยๆ​ โอ้ย​ คนฟังนั้นละโดนแกะกระดุม​ ขออนุญาตใช้ความรู้อันน้อยนิสมีเพียงปริญญาตรี​ 1​ใบในไทยขอแกะกระดุมคุณทิม​ พิธานนะคะ​ คุณทิมจากอนาคตใหม่เน้นพูดเรื่องเกษตรและพื้นที่ทำกิน​ โดยใช้คำโก้ว่าแกะกระดุม​ 5​ เม็ด​ (ตอนที่เขียนเราไม่ได้เขียนเป็นข้อๆนะเขียนจากสิ่งที่จำได้เพราะรีบพิมพ์สดกลัวคนไทยโดนหลอกแล้วเราก็ค่อยมาปรับจับใส่เป็นข้อตามด้านล่าง ? กระดุมเม็ดที่​ 1​ พูดเรื่องที่ดินโดยเน้นโอบคนว่าคนที่ทำเกษตรไม่มีที่ทำกิน​ ใช่ค่ะ​ รัฐกำลังพยายามให้คนไทยแท้ได้สิทธิในที่ดิน​ แต่คุณทิมดันพูดเอื้อไปถึงคนชายขอบ​ คนไร้สัญชาติแบบเนียนๆโดยใช้ข้อมูลองค์รวมไม่ครบ​ เช่นเรื่องแรกมะม่วงน้ำดอกไม้ส่งออก​ คุณบอกว่าตอนนี้มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองพร้อมส่งออกมีในหลายพท.มากเคยพร้อมส่งออกสู่เกาหลี​ จีน​ ญี่ปุ่น​ โลละเป็น100​ บาท​ ทำหน้าสยะยิ้ม แต่ส่งออกไม่ได้เพราะไม่มี GAP อาจจะงงว่า GAP คืออะไรการทำเกษตรต้องมีมาตรฐานผักผลไม้ปลอดภัย​ เอาพท.ขึ้นทะเบียนและตรวจสอบจากเกษตรอำเภอหรือจังหวัด​ ทิมบอกว่าส่งออกไม่ได้เพราะพท.ที่ชาวบ้านทำเป็นพท.ป่าไม่มีโฉนดขึ้นทะเบียนไม่ได้​ แยกเป็นกรณีนะคะ​ เพื่อจะได้ไม่ดูพูดไม่มีกรอบ 1.ตามที่ทราบตอนนี้จังหวัดที่ส่งออกจะมีที่อ.พร้าว​ จ.เชียงใหม่​ จ.สมุทรสงคราม​ จ.เพชรบูรณ์​ จ.นครราชสีมา​ จ.อ่างทอง และจ.สุพรรณบุรี​ ซึ่งตามที่เช็คมานี้พท.ทั้งหมดมี GAP ทั้งหมด​ ส่งออกปกติ​ ไม่เข้าใจว่าจุดประเด็นเรื่องนี้แล้วพูดครึ่งๆกลางๆ​ ไม่ได้นะคะ​ ต้องให้เคลียร์​ หรืออยู่ประเด็นนี้ 2.พท.นั้นไม่มี GAP เพราะเป็นคนชายขอบไม่ใช่คนไทยแท้เป็นคนที่มาอาศัยพท.ป่าแบบบุกรุกจริงๆ​ อันนี้อาจเป็นได้​ คุณต้องพูดชัดๆ​ อาจเป็นได้เพราะแค่เราจะจัดสรรหาพท.ให้คนไทยให้มีทุกครัวเรือนตอนนี้ยังยากเลย​ และบางครั้งการจะเอื้อกับคนชายขอบที่ยังไร้สัญชาติแต่ปลูกมะม่วงตามคนไทยแท้และอ้างว่าอยากส่งออกแต่ขาดสิทธิ​ เป็นธรรมดามั้ยคะถาจะเอื้อจะช่วยคนไทยก่อนช่วยคนอื่นอย่าเพิ่งสิทธิมนุษยชนเยอะแค่นี้ประเทศไทยคนก็หลบมาแย่งงานคนไทยเยอะแล้ว​ เราต้องรักษาสิทธิกันก่อน​ การพูดเอาหรูดูเท่ หลอกได้แต่คนที่ไม่มีความรู้ค่ะ​ เรื่องนี้ลุงป๊อก​ กล่าวตอบทิมว่าเราจะเป็น "ม้าอารีแบกทุกอย่างไว้ไม่ได้" ?? มาเรื่องกระดุมเม็ดที่​ 2​ เอาง่ายๆจากคนขายมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองก่อนนะส่วนตัวติดต่อซื้อขายมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองจ.อ่างทอง​ ที่เค้าเคยส่งออกจีน​ ญี่ปุ่น​ เกาหลีเค้าสามารถส่งออกได้ปกติ​ เพราะมี GAP รู้มั้ยยกสวนต่อ 1​ ครั้งช่วงเดือนเมษายน​ ยกสวนหมายถึงซื้อทุกเกรด ​A​ ส่งออก B ตลาดไทย C เป็นเกรดตลาดนัดหรือแปรรูปอยู่ที่สวนละ 600,000 กว่าบาท ​ปีนึงเก็บได้ต่อ ​2​ ครั้ง​ ยกสวนส่วนใหญ่รวมกันราวๆ 7​ ครัวเรือน​ รายได้ต่อ​ 1​ ปีเกือบ 1,300,000บาท​ หาร​ 7​ ค่ะ ตกต่อครัวเรือนเฉลี่ยอยู่ที่​ 180,000 บาท​ หาร​ 12​ ค่ะ​ ตกเดือนละ​ 15,000​ กว่าบาท​ อันนี้เฉพาะปลูกมะม่วงขายสดอย่างเดียวแต่ปกติ​คนปลูกมะม่วงปลูกกล้วยด้วย​จะมีรายได้จากกล้วยและผลผลิตต่างหาก​ อีกหนึ่งข้อบิดเบือน คุณทิมพูดว่า​ ค่าเฉลี่ยต่อหัวเกษตรกรอยู่ที่ปีละ​ 50,000​ กว่าบาท​ คุณทิมบอกว่าตกเดือนละ​ 4,000 กว่าบาท​ บอกว่าเอาข้อมูลจากระทรวงเกษตร​ ตลกร้ายค่ะคืออันนี้ลิงค์ด้านล่าง​ ข้อมูลรายได้ต่อปี​อยู่​ 190,000 บาทต่อปี​ อันนี้คือตกเดือนละ 16,000 บาท ดูตามลิงค์ท้ายข้อความค่ะ​ ยังมีเกษตรกรหอมแดงที่กาฬสินธ์อีกนะคะ​ ที่นั่นผลผลิตต่อปีหลักหลายร้อยตัน​ มีทำสลับกับข้าวหมดข้าวปลูกหอม​ กระเทียม​ ค่าเฉลี่ยต่อเดือนก็ราวๆ​ 12,000-18,000 บาทเช่นกันค่ะ​ ขอยกแค่​ 2​ กรณี​ ใช่ค่ะ​ มีการกู้ยืมจริงๆ​เพราะหมื่นกว่าคือรายรับครัวเรือน​ แต่มันหลายอย่างมากที่ทำให้เกษตรกรเป็นหนี้​ สภาพภัยแล้ง​ การไม่แบ่งพท.ทำกินตามเศรษฐกิจพอเพียง​ หลายร้อยครัวเรือนอยู่ได้โดยไม่เป็นหนี้เพราะหลักนี้​ แล้วก็เช่นเดียวกันการเป็นหนี้สะสมมาตั้งแต่กี่สิบปีมาแล้ว​ เพราะอย่างที่ทุกคนรู้มันไม่ใช่แค่รัฐคนเดียวที่ทำให้จนมันคือองค์รวมหลายประการ​ และเรืองการใช้สารเคมีถูกค่ะนั่นคือทางเลือกที่ดีที่สุดของเกษตรกร​ ณ​ เวลาตรงหน้า​ เพราะอยากมีผลผลิตที่แน่นอน​ และสารเคมีแบบฮาร์ดคอร์ก็มีราคาถูก​ หลายอย่างพูดเหมือนใช่แต่มันยังไม่ครบถ้วนค่ะ ???? กระดุมเม็ดที่​ 4​ อีกเรื่องที่พูดเอาหล่อ​ ​จะเล่าให้คุณทิมฟังค่ะว่าสิ่งที่คุณทิมพูดเกือบครบละค่ะแต่ยังขาดอีกเยอะอยู่สินค้าเกษตรด้วยนวัตกรรม​ของรบ.ลุงตู่ 1​ มันไปไกลมาก​ เราเคยได้ทุนจากรบ.ลุงในการผลักดันให้แกร่งขึ้นจากสวทช.​เพื่อผลักดันสตาร์ทอัพในด้านการตลาดสำหรับเกษตรแปรรูป​ ทุนรัฐบาลลุงมีจริง​ค่ะ​ ทุนไม่มีกระจุกแต่ขึ้นว่าคุณดิ้นรนหรือทำตัวควรค่าแก่การได้รับทุนแค่ไหน​ การที่คุณบอกว่างบจะลงยังงัยให้ครบทุกพท.มันไม่พอ​แน่​ เรื่องนี้ท่านอนุพงศ์เองก็อาจจะไม่ทราบรายละเอียดมากเท่ารมต.พาณิชย์​ อุตสาหกรรมหรือเกษตร​ แต่จริงๆต้องถามจากบรรดาอธิบดีแต่ละกรมกอง​ค่ะ กว่า​ 5​ ปีที่ผ่านมาไทยสามารถปรับตัวจนเป็นต้นแบบของ Hub ทางอาหารแปรรูปของอาเซียน​ เรามี​ Food innopolis เพื่อเพิ่มมูลค่า​สินค้าเกษตร​ ณ​ เวลานี้เกษตรกรหลายพท.ปรับตัวเรามีหลายหน่วยงานมากจริงๆ YSF หรือเรียกว่า young smart farmer มี Otopinno เป็นต้น​ แต่การที่ใครจะมาทำนวัตกรรมแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าคนนั้นต้องพร้อมจริง​ๆในทุกด้าน​ แปรแล้วขายใครนั่นยากที่สุด​ ตอนนี้เกษตรกรแปรรูปแทบทุกครัวเรือนเพราะงบรัฐ​ 5​ ปีที่ผ่านมาผลักดันเรื่องนี้มาก​ แต่ทำไมยังไม่สุดเพราะ สิ่งที่คนไทยเป็นมานานอะไรดีกูทำเหมือนกันหมด​ มันเลยล้นตลาด​ แล้วตัดราคากัน​อย่างที่หลายประเทศไม่ทำกัน​เอาเงินสดที่มาให้ตรงหน้าไวที่สุดเท่าไรก็ตามขอให้ได้เงินสด​ เพราะฉะนั้นจะมีเพียงบางคนที่ขายได้ไม่ใช่ทุกคนขายได้​ นั่นคือเมื่อแปรรูปได้จำเป็นต้องมีกลุ่มซึ่งตอนนี้เราจะได้ยินคำว่ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนคือการรวมกลุ่มกันในหมู่บ้านเดียวกัน​ 7​ ครัวเรือน​ แล้วจับมือขายไปพร้อมๆกัน​ การจะจับกลุ่มหรือรวมตัวชุมชนขึ้นมามันมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามา​ เมื่อแปรรูปจับกลุ่มคนนั้นไม่ยากหรอกแต่จะทำให้คนคิดเหมือนกันทั้งกลุ่มยากคนนั้นอยากเพิ่มอันนั้นแต่มันกลายเป็นเพิ่มต้นทุน​ คนนี้อยากได้แบบนี้มองว่าสิ่งที่ทำดีแล้วมันจบยากมาก​จริงๆ​ เห็นมั้ยคะเวลานี้ไม่ใช่ขึ้นกับงบรัฐเลย​ แต่ขึ้นกับ​ 2​ ปัจจัยหลักคือตลาดที่ขายและตัวเกษตรกรเอง นอกจากนี้รัฐยังมีศูนย์รวมนักวิชาการที่มีหน้าที่ให้ความรู้กับเกษตรกรโดยกระจายตามมหาวิทยาลัยมีทั้งหน่วยงานที่ชื่อว่า​ วว.​, สกว., Innovation​ house, nea, ขึ้นอยู่ว่าหน่วยไหนจะจับลงอะไร​ โดยมีผ่านทั้งทางมหาวิทยาลัย​เช่นมหาวิทยาลัยเกษตร​ มหาวิทยาลัยมหิดล​ มหาวิทยาลัยขอนแก่น​ มหาวิทยาลัยสงขลา​ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และอาจจะมีที่อื่นอีกอันนี้ขออนุญาตอัพเดทข้อมูลวันหลัง​ และมีลงตามสภาเกษตร​ สภาหอ​ สภาอุตสาหกรรม โดยกระจายงบและนักวิชาการลงมหาวิทยาลัยที่สามารถเป็นศูนย์กลางของแต่ละภาคได้​มันเป็นการกระจายจากศูนย์กลางสู่ชุมชน​และเกษตรกรสามารถนำผลผลิตที่มีอยู่เยอะล้นตลาดมาปรึกษานักวิจัยเพื่อให้นักวิจัยขึ้นโปรโตไทปหรือต้นแบบการผลิตให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย​ ทั้งหมดนี้จะทำงานร่วมกันทั้งพาณิชย์จังหวัด​ เกษตรอำเภอ​ พม.​ กำนันผู้ใหญ่บ้านและเกษตรกร​ 5​ ปีที่ผ่านมาลุงตู่ทำแล้ว​ ของแปรรูปเยอะไปหมด​ เยอะจนแบบว่ากินแค่เจลเหลวก็ไม่ต้องกินข้าวทั้งวันได้แล้ว​ ลีนยันเม็ดมะม่วงเบายังมีเลยลีนคือการเอาของที่เหลือจากกระบวนการหลักมาใช้ให้ครบเพื่อจะได้ไม่เป็นของเหลือทิ้ง​ นี่คือนวัตกรรมไทยมันไปดาวอังคารแล้ว แต่เรื่องจริงที่เป็นปัญหาหลักคือตลาดการค้าโลกในยุคที่ไทยแค่ 4.0 จีนกำลังจะ 5.0 แล้วมันโครตโหดร้่ายมากเราคนนึงก็ฝ่าฟันหนักมาก​ กัดฟันจะโดนลิ้นอยู่แล้ว​ แต่เรายังโชคดีว่าเราอยู่ด้วย​ "เศรษฐกิจพอเพียง" ทฤษฎีของพ่อเราจึงไม่ดิ้นรนอะไรมาก​ เราไม่ใช่เกษตรกรต้นน้ำแต่เราเจอคนต้นน้ำเราคิดเสมอว่าเรายังโชคดีนะที่ถนัดแบบนี้แบกแค่กลางน้ำไปปลายน้ำคือแปรรูปและออกตลาด​ เพียงแค่มีข้าวอิ่มมีที่นอนอุ่นและดูแลทุกคนได้​ แต่ความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกันจริงๆนะ​ จะต้องผลักดันยังงัยใส่งบแค่ไหนละบางคน 100​ บาทใหญ่​ 1,000​ บาทเล็ก​ ยังงัยก็ไม่พอหากแต่คุณไม่พัฒนาตัวเองมากขึ้นหรือตั้งคำว่าพอให้น้อยลง เรื่องสินค้าแปรรูปที่รัฐพยายามจะบอกว่าเกษตรกรทุกคนก็สามารถเพิ่มมูลค่าได้เป็นเจ้าของแบรนด์ได้​ รัฐอาจไม่รู้ชัดๆ​ ส่วนคุณทิมเราว่าไม่รู้เลยนะ​ ของน่ะแปรรูปแทบหมดแล้วมีแบรนด์กันเยอะแล้ว​ แต่สถานที่ขายช่องทางการจัดจำหน่ายอ่ะมันไม่มีหรือมีก็ไม่มีคนซื้อ สิ่งที่รัฐต้องผลักดันไม่ใช่ผลักดันให้เกษตรกรแปรรูป​ได้ แต่ควรทำให้เค้าเป็นเกษตรกรที่เข้มแข็ง​ คนเป็นเกษตรกรให้เป็นเกษตรกรไป​ โดยกำหนดราคากลางเป็นราคาของรัฐในการรับซื้อ​ และทุกคนที่รับซื้อก็ควรจะปฏิบัติตามและแมตระหว่างคนแปรรูปกับเกษตรกร​ เพราะเกษตรกรก็จะได้ไม่ต้องเพิ่มต้นทุนเรื่องค่าเครื่องมือในการแปรรูป​ แพคเกจจิ้ง​ ค่าการตลาดที่จะต้องทำแบรนด์​เพราะการสร้างแบรนด์สายป่านต้องหนาแน่นพอสมควรทีเดียว สินค้าดีแต่ไม่ดังไม่มีแบรนดิ้งที่ดี​ ยืนขายแทบตายกว่าจะได้สักถุงยากนะ​ จะขายใครนั่นคือปัญหาตอนนี้ต่างหาก​ ผลักดันให้ถูกจุดค่ะใครทำอะไรเก่งทำไปและตั้งใจจับมือเดินไปด้วยกันอย่างมีธรรมาภิบาล​ แล้วโตไปด้วยกัน​ จับกลุ่มกันสร้างโครงสร้างราคาให้เข้มแข็ง​ตอนนี้เช่นมะม่วงอบแห้งเรายังแพ้​แบรนด์ 7D ของเซบู​ ประเทศฟิลิปปินส์​มะม่วงอบแห้งไทยปีปีนึงขายหลักหมื่นตันทราบมั้ยคะ​ และอบแห้งไทยอร่อยที่สุดในโลก​ แต่เรายังใช้คำว่าอร่อยที่สุดในโลกไม่ได้เพราะ 7D เองเค้าผนึกกำลังกันทั้งเกาะทำราคาอย่างมีมาตรฐานและกำหนดทิศทางราคาเดียวกัน​ แต่คนไทยมะม่วงอบแห้งชนิดเดียวกันราคายังมีตั้งแต่หลัก 100-300​บาท​ การต่อรองราคาไม่เคยเป็นเอกภาพ​ และอะไรดีกูเฮตามกัน​ เข้ากูเกิ้ลดิเป็นพันยี่ห้อ​ และตัดราคากันจนเป็นเรื่องคุ้นชิน​ เคสนี้ขอยกกรณีศึกษาสบู่ก้อนของไทยครั้งนึงเคยบูมมากที่จีนตัดราคากันจนตลาดสบู่ก้อนตายสนิทถูกที่สุดคือ 2 บาทต่อก้อน​ นี่ละคะปัญหาเกษตรกรไทยมีหลายปัจจัยเหลือเกิน​ ต้องยอมรับว่านิสัยคนไทยใครให้เงินสดไวราคาต่ำเท่าไรก็ขาย​ รัฐช่วยให้ตายก็แก้ไขปัญหาเรื่องราคานี้ยากมาก​ หากเกษตรกรไม่พยายามปรับตัว​ ทุกวันนี้ทุเรียนดีๆล้งจีนรอเลยจร้า​ เงินสดไปทันที​ เห็นภาพนะคะ งบกับเกษตรกรแต่ละปีลงไปไม่น้อยเลยแต่เกษตรกรที่พร้อมปรับตัวก็สำเร็จเป็นเศรษฐีเงินล้านก็มีจำนวนมาก​ แต่คนที่ไม่ขวนขวายหรือใช้เงินเกินตัวก็มี​ คนที่โครตซวยชีวิตรันทดจริงๆก็เยอะ​ เรื่องของเกษตรกรคุณจะต้องร่วมมือกันทุกฝ่ายจริงๆ​ รัฐ​ เอกชน​ เกษตรกร​ และราชการประจำที่ทำหน้าที่​ ฝากไว้ตามนี้​ เราอยากเห็นภาคเกษตรยั่งยืนและลืมตาอ้าปากได้​ โลกเปลี่ยนเร็วมากค่ะ​ กระดุมเม็ดที่​ 3​ กับ​ 5​ รอแป้บ​จะชำแหละให้อีกครั้ง​ ขอทำงานบ้าง​ ข้อความนี้จริงๆพิมพ์สดตอนเค้าพูด​เลยจับมาแมตกะกระดุมบ้าบอไรนี่ง่ายหน่อย​ คนไทยก็บ้าชอบแกะกระดุมชอบคำพูดหรูๆ​ เฮ้ยลุงตู่ทำหมดแล้ว​ แค่ไม่ได้ใช้คำว่าแกะกระดุม​ ​ คนแบบทิม​ พิธาและคนของพรรคอนาคตใหม่มีดีแค่โพรไฟล์​ เรียนจบดีมีบริษัทตั้งแต่อายุน้อย​ แต่เค้าแค่มาสานสิ่งที่พ่อแม่สร้่าง​ธุรกิจครอบครัว​ ​ ต่อให้มาแก้หนี้นั่นคือมีเครดิตกะแบงค์อยู่​จะกู้ไม่ยากแล้ว​ เป็นคนรุ่นเดียวกันด้วยประการทั้งปวงแต่เราเป็นคนมาจากติดลบ​ ที่คิดจะสร้างให้ลูกทุกรายละเอียดจึงมาจากอินเนอร์จริงๆ​ ภาครัฐขาดข้อมูลด้านใดกับชุมชนถามนู๋ได้นะค่ะ​ อย่าถามหน่วยราชการมันจะเป็นข้อมูลประดิษฐ์ไม่ใช่ข้อมูลดิบ​ จะมีกี่คนที่อยากช่วยชาติแบบไม่หวังอะไรยากมากจริงสมัยนี้แต่เราเต็มใจอยากช่วยมาก​ เพราะอยากให้ลูกยังโตมาในแบบที่เราโตมาคืออบอุ่นแบบไทย