หลังจาก "น้องแนน"โสภิตา ธนสาร ฮีโร่จอมพลังสาวยกเหล็กชาวชุมพรประเดิมคว้าเหรียญทองแรกให้ทัพกีฬาไทย สร้างความสุขให้คนไทยทั้งประเทศ ถัดมาอีกวัน "เจ้าดุ่ย""ดุ่ย" สินธุ์เพชร์ กรวยทอง ก็เป็นฮีโร่คว้าเหรียญทองแดงในยกเหล็ก รุ่น 56 กก. ได้อีกคน พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์วงการกีฬาไทยขึ้นอีกหน้าในฐานะนักยกเหล็กชายคนแรกที่คว้าเหรียญรางวัลยกน้ำหนักจากโอลิมปิกเกมส์ โดยที่ก่อนหน้านี้มีแต่ผลงานของจอมพลังสาวล้วนๆ กีฬายกน้ำหนักเขียนประวัติศาสตร์คว้าเหรียญแรกเมื่อตอน "ซิดนีย์เกมส์2000" จากผลงานของ "น้องเกษ"เกษราภรณ์ สุตา จากนั้นก็ไม่เคยพลาดเหรียญรางวัลแม้แต่ครั้งเดียว "เอเธนส์เกมส์2004"ถือเป็นปีทองยกน้ำหนักไทยเพราะทำได้ถึง 2 เหรียญทอง 2 เหรียญทองแดง ความสำเร็จที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ "เสธ.ยอด"พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย กับ "เจ๊บุษ"บุษบา ยอดบางเตย ที่สลับขั้วกันเป็นประมุข สร้างจอมพลังไทยจนเกรียงไกร เป็นที่ภาคภูมิใจของคนไทยทั้งแผ่นดิน ไม่เพียงแต่ยกเหล็เท่านั้นที่ทำผลงานกระหึ่ม หากแต่ มวยสมัครเล่น หนึ่งในกีฬาความหวังระดับเหรียญรางวัลทุกครั้งก็กำลังไปได้สวย ทั้ง "เจ้าเพชร"อำนาจ รื่นเริง อดีตแชมป์โลกไอบีเอฟ และ "เจ้าลม" สายลม อาดี นักชกผู้มากประสบการณ์ ต่างคว้าชัยผ่านฉลุยเข้ารอบสองได้สำเร็จ เส้นทางสู่เป้าหมายยังอยู่อีกหลายด่าน และแต่ละด่านก็ล้วนแต่เป็นศึกหนักทั้งนั้น โอลิมปิกครั้งนี้เป็นงานท้าทาย "บิ๊กบางจาก"พิชัย ชุณหวชิร ประมุขกำปั้นที่ต้องทวงคืนศักดิ์ศรีเหรียญทองกลับมาให้ได้ มาเร็วเครมเร็ว "ต้น-ต้อง"สนฉัตร สรรค์ชัย รติวัฒน์ ส้มหล่นใส่ได้เป็นมวยแทนไปโอลิมปิกเกมส์ ลงแข่งปุ๊บแพ้ปั๊บ ไม่เหนือความคาดหมาย แต่เจ้าตัวก็ภูมิใจที่ได้ไปแข่งมหกรรมกีฬาสุดยอดของโลก เป็นเกียรติประวัติชีวิตการเป็นนักกีฬาทีมชาติไม่ง่ายที่จะได้สิทธิ์นั้น หากฝีมือไม่ถึงขั้น ขณะที่ "น้องแป๋ว"นันทนา คำวงศ์ ก็เสร็จสิ้นหน้าที่ในโอลิมปิกเกมส์ไว้ที่รอบ3 แม้ผลงานของเธอจะเป็นแค่ไม้ประดับมาตลอด แต่ดีกรีเป็นตัวแทนทีมชาติไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ถึง5ครั้ง ต้องถือเป็นเกียรติประวัติอันยิ่งใหญ่ที่คนไทยทั้งประเทศต้องสดุดียกให้เป็นนักกีฬาผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของแผ่นดิน