ทรงบันทึกภาพดาวเสาร์ ภาพเนบิลลาสามแฉก นับเป็นหอดูดาวภูมิภาคเพื่อประชาชนเต็มรูปแบบแห่งที่ 3 ของไทย และคาดจะกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ในการเรียนรู้ดาราศาสตร์ของภาคใต้ เริ่มเปิดให้บริการ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป โดยจะมีกิจกรรมจัดดูดาวทุกวันศุกร์
เมื่อวันที่ 25 ก.ค.62 เวลาประมาณ 19.40 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯมาทรงเปิดหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประธานกรรมการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ และคณะกรรมการจัดงาน เฝ้าฯ รับเสด็จ
ทั้งนี้ ทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้าย หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ทรงปลูกต้นราชพฤกษ์ 1 ต้น และเสด็จเข้าอาคารฉายดาว ซึ่งเป็นโดมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เมตร ติดตั้งเครื่องฉายดาวระบบฟูลโดมดิจิทัล ที่สดร. ได้พัฒนาระบบฉายภาพที่คมชัดและสมจริงมากยิ่งขึ้น ทั้งได้เสด็จขึ้นหอดูดาว ทอดพระเนตร ดาวเสาร์ ดาวพฤหัสบดี ผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก ทรงบันทึกภาพดาวเสาร์ ด้วยกล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 0.7 เมตร ของหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ สงขลา และทรงบันทึกภาพเนบิวลาสามแฉก ผ่านกล้องโทรทรรศน์ควบคุมระยะไกลอัตโนมัติ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.43 เมตร ของสดร. ซึ่งตั้งอยู่ ณ หอดูดาวสปริงบรู๊ค ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งการเสด็จฯ ทรงเปิดหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ในครั้งนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ชาวสงขลาและสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมอย่างหาที่สุดมิได้
สำหรับสดร.มีแผนจัดสร้างหอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชนเต็มรูปแบบ 5 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา สงขลา ขอนแก่น และพิษณุโลก ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา และฉะเชิงเทรา เน้นให้บริการวิชาการดาราศาสตร์แก่ประชาชนในท้องถิ่นและใกล้เคียง สนับสนุนการจัดการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาและค้นคว้าวิจัย
ส่วน“หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา” หรือหอดูดาวภูมิภาคสงขลา เป็นหอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชนเต็มรูปแบบแห่งที่ 3 ของประเทศไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่25 ไร่ บริเวณเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ด้วยตำแหน่งที่ตั้งในภาคใต้ บริเวณละติจูด 7 องศาเหนือ ส่งผลให้มีจุดเด่นคือ สามารถศึกษาวัตถุในซีกฟ้าใต้ได้ดีกว่าหอดูดาวในภูมิภาคอื่น และสามารถสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ในช่วงฤดูฝนของไทยตอนบนได้ เนื่องจากสภาพท้องฟ้าภาคใต้ในเวลานั้นเอื้ออำนวยต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์มากกว่าภูมิภาคอื่น
นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ดาราศาสตร์มุสลิมแห่งแรกของไทย มีพันธกิจคือร่วมสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการกำหนดเวลาที่ใช้ในพิธีทางศาสนาอิสลาม อันเป็นการสนับสนุนภารกิจของสำนักจุฬาราชมนตรีอีกด้วย และด้วยทำเลที่ตั้งบนเขารูปช้าง สามารถมองเห็นทะเลสองฝั่ง มีทัศนียภาพที่โดดเด่นสวยงาม คาดว่าจะเป็นแลนด์มาร์คการเรียนรู้ดาราศาสตร์แห่งใหม่ของภาคใต้ที่ช่วยเปิดประสบการณ์ด้านดาราศาสตร์ให้กับเยาวชน ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ดาวเสาร์ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์กรมสมเด็จพระเทพฯ
ทั้งนี้ จะเริ่มเปิดให้บริการประชาชนตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.62 เป็นต้นไป เวลาทำการวันอังคาร - อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) ท้องฟ้าจำลองระบบฟูลโดมดิจิทัล ค่าธรรมเนียม นักเรียน/นักศึกษา 30 บาท บุคคลทั่วไป 50 บาท ส่วนนิทรรศการดาราศาสตร์ไม่เสียค่าธรรมเนียม และมีกิจกรรมดูดาว (NARIT Public Night) ทุกวันเสาร์ 18.00 - 22.00 น. ไม่มีค่าใช้จ่าย
เนบิวลาสามแฉก ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์
ทั้งนี้ ทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้าย หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ทรงปลูกต้นราชพฤกษ์ 1 ต้น และเสด็จเข้าอาคารฉายดาว ซึ่งเป็นโดมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เมตร ติดตั้งเครื่องฉายดาวระบบฟูลโดมดิจิทัล ที่สดร. ได้พัฒนาระบบฉายภาพที่คมชัดและสมจริงมากยิ่งขึ้น ทั้งได้เสด็จขึ้นหอดูดาว ทอดพระเนตร ดาวเสาร์ ดาวพฤหัสบดี ผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก ทรงบันทึกภาพดาวเสาร์ ด้วยกล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 0.7 เมตร ของหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ สงขลา และทรงบันทึกภาพเนบิวลาสามแฉก ผ่านกล้องโทรทรรศน์ควบคุมระยะไกลอัตโนมัติ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.43 เมตร ของสดร. ซึ่งตั้งอยู่ ณ หอดูดาวสปริงบรู๊ค ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งการเสด็จฯ ทรงเปิดหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ในครั้งนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ชาวสงขลาและสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมอย่างหาที่สุดมิได้
สำหรับสดร.มีแผนจัดสร้างหอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชนเต็มรูปแบบ 5 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา สงขลา ขอนแก่น และพิษณุโลก ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา และฉะเชิงเทรา เน้นให้บริการวิชาการดาราศาสตร์แก่ประชาชนในท้องถิ่นและใกล้เคียง สนับสนุนการจัดการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาและค้นคว้าวิจัย
ส่วน“หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา” หรือหอดูดาวภูมิภาคสงขลา เป็นหอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชนเต็มรูปแบบแห่งที่ 3 ของประเทศไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่25 ไร่ บริเวณเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ด้วยตำแหน่งที่ตั้งในภาคใต้ บริเวณละติจูด 7 องศาเหนือ ส่งผลให้มีจุดเด่นคือ สามารถศึกษาวัตถุในซีกฟ้าใต้ได้ดีกว่าหอดูดาวในภูมิภาคอื่น และสามารถสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ในช่วงฤดูฝนของไทยตอนบนได้ เนื่องจากสภาพท้องฟ้าภาคใต้ในเวลานั้นเอื้ออำนวยต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์มากกว่าภูมิภาคอื่น
นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ดาราศาสตร์มุสลิมแห่งแรกของไทย มีพันธกิจคือร่วมสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการกำหนดเวลาที่ใช้ในพิธีทางศาสนาอิสลาม อันเป็นการสนับสนุนภารกิจของสำนักจุฬาราชมนตรีอีกด้วย และด้วยทำเลที่ตั้งบนเขารูปช้าง สามารถมองเห็นทะเลสองฝั่ง มีทัศนียภาพที่โดดเด่นสวยงาม คาดว่าจะเป็นแลนด์มาร์คการเรียนรู้ดาราศาสตร์แห่งใหม่ของภาคใต้ที่ช่วยเปิดประสบการณ์ด้านดาราศาสตร์ให้กับเยาวชน ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ดาวเสาร์ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์กรมสมเด็จพระเทพฯ
ทั้งนี้ จะเริ่มเปิดให้บริการประชาชนตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.62 เป็นต้นไป เวลาทำการวันอังคาร - อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) ท้องฟ้าจำลองระบบฟูลโดมดิจิทัล ค่าธรรมเนียม นักเรียน/นักศึกษา 30 บาท บุคคลทั่วไป 50 บาท ส่วนนิทรรศการดาราศาสตร์ไม่เสียค่าธรรมเนียม และมีกิจกรรมดูดาว (NARIT Public Night) ทุกวันเสาร์ 18.00 - 22.00 น. ไม่มีค่าใช้จ่าย
เนบิวลาสามแฉก ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์