กรมฝนหลวงฯ เร่งทำฝนหลวง ช่วยพื้นที่เกษตร เติมน้ำเขื่อน ดีเดย์ 1ส.ค.นี้ 3 เหล่าทัพขึ้นบินร่วมปฏิบัติการทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.62 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ขณะนี้เข้าสู่กลางฤดูฝนแล้ว และเหลือระยะเวลาของช่วงฤดูฝนอีกประมาณ 2 เดือน ที่สภาพอากาศจะมีความชื้นสัมพัทธ์เหมาะกับการปฏิบัติการฝนหลวงด้วย ซึ่งแม้ในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีความชื้นสัมพัทธ์เอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวงแล้ว แต่ในเรื่องกระแสความเร็วลมค่อนข้างแรง มากกว่า 36 กม./ชม. ในบางครั้ง จึงส่งผลให้เมฆไม่สามารถพัฒนาตัวเกิดเป็นฝนได้ หรือตกเป็นฝนในปริมาณเล็กน้อย หรือเป็นเพียงละอองฝนเท่านั้น จึงพยายามเร่งปฏิบัติการช่วยเหลือในพื้นที่ฝนทิ้งช่วง และการเติมน้ำในเขื่อน เพื่อให้มีน้ำรองรับเพียงพอสำหรับต้นฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึงหลังจากนี้ให้มากที่สุด ทั้งนี้ ยังได้รับการสนับสนุนอากาศยานจากกองทัพอากาศ เพิ่มจำนวน 5 ลำ จากกองทัพบก จำนวน 1 ลำ ซึ่งจะพร้อมปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นไป และจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 1 ลำ ที่กำลังดัดแปลงสภาพอากาศยานให้มีความเหมาะสมต่อการปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งเมื่อเรียบร้อยแล้วจะพร้อมร่วมปฏิบัติการสนับสนุนต่อไป สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ (24 ก.ค. 2562) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 8 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตร พื้นที่ประสบภัยแล้ง และพื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในหลายพื้นที่ของจ.ลำปาง เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ สุรินทร์ และจ.สระแก้ว เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักบริเวณพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ่างเก็บน้ำแม่พริกผาวิ่งชู้ อ่างเก็บน้ำแม่อาบ อ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดง อ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก อ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ และอ่างเก็บน้ำห้วยเทียน