เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านไอซีทีโซลูชั่นและการสื่อสารระหว่างประเทศ ซึ่งได้เพิ่งประกาศรวมกิจการภายใต้บริษัท NTT Ltd พร้อมนำเสนอนวัตกรรม IoT เจาะกลุ่มอุตสาหกรรมโรงงานการผลิตทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ด้วยบริการ Intelligence Process Optimization แบบครบวงจร เพิ่มศักยภาพในกระบวนการผลิต พร้อมผลักดัน นายศานิต เกษมสันต์ ณ อยุธยา รองประธานแผนกผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัท เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า Intelligence Process Optimization เป็นบริการแบบครบวงจร เริ่มจากให้คำปรึกษา สำรวจพื้นที่และระบบเพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสม ตั้งแต่การออกแบบระบบเครือข่าย การจัดหาอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บข้อมูล และแพลตฟอร์มในการทำงาน เพื่อจัดเก็บข้อมูลการผลิตแบบรวมศูนย์ ให้มีความชัดเจน สามารถบันทึกข้อมูลเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังรวมถึงความสามารถในการนำไปวิเคราะห์สถานะในการทำงานแต่ละวัน และเชื่อมโยงข้อมูลให้สามารถตรวจสอบจากศูนย์ควบคุมทั้งภายใน และภายนอกโรงงานได้ อีกทั้งยังมีระบบตรวจสอบการทำงานหากมีความผิดพลาดหรือหยุดชะงักจะมีสัญญาณแจ้งเตือน เพื่อให้ผู้ควบคุมการผลิตในแต่ละส่วนสามารถแก้ไขจุดบกพร่องได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำ โดยปัจจุบันกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมภาคการผลิตได้มีการนำเทคโนโลยี IoT หรือ Internet of Things เข้ามาช่วยบริหารจัดการระบบ คิดเป็นประมาณร้อยละ 4 ของโรงงานทั้งหมดที่ตั้งอยู่ในไทย ซึ่งเอ็นทีที คอม มีความพร้อมที่จะนำเสนอบริการ Intelligence Process Optimization เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้กับภาคโรงงานผลิตในการผลักดันเทคโนโลยี IoT เข้าไปประยุกต์ใช้ในโรงงานได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้จะเป็นการผสานการทำงานระหว่างระบบ IoT เข้ากับเทคโนโลยีส่วนปฏิบัติการ หรือ Operational Technology (OT) ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในเบื้องต้นจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มโรงงานขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ พลังงาน อาหาร และเคมีภัณฑ์ “จากการสำรวจกระบวนการทำงานในโรงงานถึงแม้จะเป็นโรงงานผลิตขนาดใหญ่พบว่าปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากข้อมูลในการผลิตไม่ถูกจัดเก็บไว้ที่จุดศูนย์กลาง มีความผิดพลาดที่เกิดจากการจัดเก็บข้อมูล รวมถึงความผิดพลาดจากการทำงานแบบแมนนวล ซึ่งบริการดังกล่าวจะเข้าไปช่วยในการบริหารจัดการข้อมูล ความเสี่ยง การตรวจสอบ การบันทึก และวิเคราะห์สถานะของระบบการทำงานของโรงงานแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ลดข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิตให้มีความเสถียรมากขึ้น ย่นระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล ลดระยะเวลาและขั้นตอนในการทำงาน สามารถรวบรวมข้อมูลการจัดเก็บคลังสินค้าและอุปกรณ์การผลิต” ขณะเดียวกันยังวิเคราะห์เพื่อแสดงจุดบกพร่อง หาสาเหตุของความเสียหายจากกระบวนการผลิตได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน สอดรับกับการปรับตัวเข้าสู่ Digital Transformation ที่ในปัจจุบันต้องอาศัยความรวดเร็วและแม่นยำ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดได้ทันท่วงที “เอ็นทีที คอม ยังได้นำแนวทางการวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัตโนมัติจากการนำปัญญาประดิษฐ์ หรือArtificial Intelligence (AI) เข้ามาเรียนรู้ข้อมูลภายในแพลทฟอร์มด้วยรูปแบบของ Data Robot โดยการสร้างแบบจำลองรูปแบบของโครงการ หรือกระบวนการผลิต แล้วนำมาประเมินสถานการณ์เพื่อให้เห็นข้อมูลชัดเจนและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ตลาดได้มากที่สุดยิ่งขึ้น”