กรมส่งเสริมการเกษตร สั่งการทุกจังหวัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจสำรวจพื้นที่ประสบภัยแล้ง พร้อมแจ้งเตือนเกษตรกรให้ปรับปรุงและขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อจะได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่​ ​ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.62 นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร สำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอเร่งสำรวจข้อมูลพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง โดยจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจ (War Room) จังหวัดเพื่อติดตามสถานการณ์และวางแผนการช่วยเหลือเกษตรกร รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำให้แก่เกษตรกร ผ่านกลไกของคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับจังหวัด (Chief of Operation : CoO) และคณะทำงานปฏิบัติการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับอำเภอ (Operation Team : OT) ขณะนี้ได้จัดทำข้อมูลสถานการณ์เนื้อที่เพาะปลูกและเนื้อที่เสียหายผ่านระบบสารสนเทศการผลิตทางด้านการเกษตร (รต.) มายังกรมส่งเสริมการเกษตรแล้วและจะปรับปรุงข้อมูลทุกวันอังคารของสัปดาห์ พร้อมกันนี้ให้ทำความเข้าใจกับเกษตรกรถึงสถานการณ์น้ำเพื่อเตรียมการวางแผนระบบการปลูกพืชให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ โดยแนะนำวิธีการดูแลรักษาพืชในภาวะฝนทิ้งช่วง อีกทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนจากการทำนามาเพาะปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อยในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2562​ ​ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรที่เพาะปลูกพืชมาปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร หากเป็นเกษตรกรรายใหม่ให้มาขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ปลูก หรือศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) หรือสถานที่อื่นที่มีความเหมาะสมโดยด่วนที่สุด ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ให้บริการต่อไป สำหรับเกษตรกรรายเดิมสามารถปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ผ่านทางแอปพลิเคชั่น Farmbook เพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ให้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2561 อีกทั้งเมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้สำนักงานเกษตรอำเภอและจังหวัดเร่งช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 ​ ​ “สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ มีหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือคือ ต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรไว้ก่อนเกิดภัย ซึ่งจะช่วยเหลือตามจำนวนพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจริง แต่ไม่เกิน 30 ไร่ อัตราการช่วยเหลือนาข้าวไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ไร่ละ 1,148 บาท พืชสวนและอื่นๆ ไร่ละ 1,690 บาท ทั้งนี้ได้กำหนดกรอบระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือ (เร่งด่วน) ให้แล้วเสร็จหลังประกาศเขตภัยพิบัติฉุกเฉินภายใน 15 วัน”นายสำราญ กล่าว