พบศพคาดเป็นชายชาวต่างชาตินอนตายพิสดารในตึกร้างคณะวิชาประมง วิทยาลัยเกษตรฯ บุรีรัมย์ ในสภาพถุงพลาสติกครอบศรีษะมีสายยางต่อเข้ากับกระป๋องแก๊สขึ้นอืดเหม็นเน่าหนอนไต่ทั้งตัว มีป้ายเหล็กขนาดใหญ่ปิดบังศพไว้ ตร. แพทย์ รุดตรวจสอบยังไม่ยืนยันฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรม
วันนี้ (23 ก.ค.62) ร.ต.อ.เฉลิมพล แก้วเนตร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์ ว่าพบศพคนนอนเสียชีวิตในอาคารร้าง คณะวิชาประมงภายในวิทยาลัยเกษตรฯ ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาหลายวันแล้วเพราะมีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง จึงได้ประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลบุรีรัมย์ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจรรยาธรรม ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารปูนร้างชั้นเดียว เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในห้องที่ใช้สำหรับเก็บสิ่งของ ก็พบป้ายเหล็กขนาดใหญ่สีเขียว ทั้งยังมีผ้าห่มปิดบังศพไว้อย่างมิดชิด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำป้ายเหล็กและผ้าออก ก็พบศพชายไม่ทราบชื่อ รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาว อายุประมาณ 50 ปี ขึ้นไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นชาวต่างชาติแต่ไม่ทราบสัญชาติ นอนหงายเสียชีวิตในสภาพสวมเสื้อแขนยาวสีกลมท่า กางเกงขายาวสีดำ ที่บริเวณศรีษะมีถุงพลาสติก สีขาวครอบอยู่ และมีสายยางต่อกับกระป๋องแก๊สที่ใช้สำหรับเติมไฟแช็ค สอดเข้าไปในถุงพลาสติกที่ครอบศรีษะด้วย ทั้งยังพบขวดน้ำวางอยู่ช่วงหว่างขาของศพด้วย ซึ่งสภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งและมีหนอนไต่ยั๊วะเยี้ยะ เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 -5วัน
ทั้งนี้ ยังพบกระเป๋าเป้สะพาย สีดำอยู่ใต้ศพผู้ตายด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้เปิดตรวจสอบดูภายในกระเป้าพบเพียงกรรไกร ถุงมือ และไฟแช็ค แต่ไม่พบบัตรหรือเอกสารแสดงตัวตนของผู้ตายแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบอาคารที่พบศพ ก็พบกระเป๋าพลาสติก สีดำ 2 ใบ ซึ่งภายในมีอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับติดตั้งสัญญาณเคเบิ้ล และถุงพลาสติก สีดำอีก 1 ใบภายในมีเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก แต่ไม่สามารถเปิดดูได้ และบันไดสแตนเลส สูง 1 เมตร ตั้งอยู่ด้วย
จากการสอบถามนักศึกษา บอกว่า เห็นกระเป๋าสีดำ และถุงพลาสติกถูกวางทิ้งไว้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ไม่รู้ว่าเป็นของใครจึงไม่กล้าไปเปิดดู กระทั่งวันนี้ผ่านไปก็ยังเห็นวางอยู่ที่เดิม แต่ได้กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายมีอะไรตาย จึงเดินไปดูในอาคารร้างดังกล่าวก็เห็นศพคนนอนเสียชีวิตอยู่ จึงได้บอกอาจารย์ เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ
ด้านเจ้าหน้าที่เบื้องต้นก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าศพที่พบเป็นการฆ่าตัวตาย หรือถูกฆาตกรรม แต่ลักษณะการตายค่อนข้างผิดไปจากธรรมชาติ ซึ่งก็จะได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง พร้อมได้ประกาศตามหาญาติของผู้เสียชีวิตว่าผู้ตายเป็นใคร เพื่อจะได้สอบสวนและหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารปูนร้างชั้นเดียว เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในห้องที่ใช้สำหรับเก็บสิ่งของ ก็พบป้ายเหล็กขนาดใหญ่สีเขียว ทั้งยังมีผ้าห่มปิดบังศพไว้อย่างมิดชิด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำป้ายเหล็กและผ้าออก ก็พบศพชายไม่ทราบชื่อ รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาว อายุประมาณ 50 ปี ขึ้นไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นชาวต่างชาติแต่ไม่ทราบสัญชาติ นอนหงายเสียชีวิตในสภาพสวมเสื้อแขนยาวสีกลมท่า กางเกงขายาวสีดำ ที่บริเวณศรีษะมีถุงพลาสติก สีขาวครอบอยู่ และมีสายยางต่อกับกระป๋องแก๊สที่ใช้สำหรับเติมไฟแช็ค สอดเข้าไปในถุงพลาสติกที่ครอบศรีษะด้วย ทั้งยังพบขวดน้ำวางอยู่ช่วงหว่างขาของศพด้วย ซึ่งสภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งและมีหนอนไต่ยั๊วะเยี้ยะ เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 -5วัน
ทั้งนี้ ยังพบกระเป๋าเป้สะพาย สีดำอยู่ใต้ศพผู้ตายด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้เปิดตรวจสอบดูภายในกระเป้าพบเพียงกรรไกร ถุงมือ และไฟแช็ค แต่ไม่พบบัตรหรือเอกสารแสดงตัวตนของผู้ตายแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบอาคารที่พบศพ ก็พบกระเป๋าพลาสติก สีดำ 2 ใบ ซึ่งภายในมีอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับติดตั้งสัญญาณเคเบิ้ล และถุงพลาสติก สีดำอีก 1 ใบภายในมีเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก แต่ไม่สามารถเปิดดูได้ และบันไดสแตนเลส สูง 1 เมตร ตั้งอยู่ด้วย
จากการสอบถามนักศึกษา บอกว่า เห็นกระเป๋าสีดำ และถุงพลาสติกถูกวางทิ้งไว้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ไม่รู้ว่าเป็นของใครจึงไม่กล้าไปเปิดดู กระทั่งวันนี้ผ่านไปก็ยังเห็นวางอยู่ที่เดิม แต่ได้กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายมีอะไรตาย จึงเดินไปดูในอาคารร้างดังกล่าวก็เห็นศพคนนอนเสียชีวิตอยู่ จึงได้บอกอาจารย์ เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ
ด้านเจ้าหน้าที่เบื้องต้นก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าศพที่พบเป็นการฆ่าตัวตาย หรือถูกฆาตกรรม แต่ลักษณะการตายค่อนข้างผิดไปจากธรรมชาติ ซึ่งก็จะได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง พร้อมได้ประกาศตามหาญาติของผู้เสียชีวิตว่าผู้ตายเป็นใคร เพื่อจะได้สอบสวนและหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง