เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 22 กรกฎาคม 2562 ที่วัดสิงห์ ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ประธานมูลนิธิมงคล-จงกลธูปกระจ่าง พร้อมนายเอนก สมบุญ นายกเทศมนตรีตำบลสามโคก ได้เดินสำรวจบริเวณโบราณสถานรอบวัดสิงห์ พบว่าจังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดที่มีทุนทางสังคมและวัฒนธรรมอยู่ในทุกพื้นที่ ซึ่งล้วนแล้วแต่ทรงคุณค่าและแสดงถึงภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ
โดยเฉพาะอำเภอสามโคกสามารถพัฒนาส่งเสริมให้เป็นเมืองท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมได้ เพราะมีความพร้อมทุกด้านขาดแต่การส่งเสริมเท่านั้นและที่วัดสิงห์ ก็เป็นวัดคู่เมืองสามโคกมาอย่างช้านาน โดยวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา มีต้นสะตืออายุกว่า 300 ปี ซึ่งในปีนี้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ประกาศต้นสะตือที่วัดสิงห์เป็น 1 ใน 88 ต้นไม้เป็น “รุกขมรดกของแผ่นดิน” เพื่อรวบรวมข้อมูลต้นไม้เพื่อเผยแพร่และส่งเสริมให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และให้เด็กเยาวชนประชาชนเห็นความสำคัญของต้นไม้ นอกจากนี้ยังมีอุโบสถเก่าแก่อายุ 352 ปี มีวิหารโถงศาลาดินเป็นอาคารทรงไทย โกศพญากรายหน้าวิหารน้อย มีพระประธาน 4 ทิศ เป็นวัดเดี่ยวที่ประชาชนมากราบไหว้แล้วมีพระคุ้มครองถึงสี่ทิศ ซึ่งควรจะสนับสนุนเป็นท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดปทุมธานี
ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กล่าวว่า ตนเองมีความเป็นห่วงต้นสะตืออายุกว่า 300 ปี ที่ทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้เลือกให้เป็นรุกขมรดกของแผ่นดิน เนื่องจากต้นไม้ดังกล่าวเป็นต้นไม้โบราณมีขนาดใหญ่โต ขึ้นอยู่ริมวัดข้างคลองวัดสิงห์ เกรงว่าต้นไม้จะโค่นล้มลงไปในคลอง และที่ต้นไม้ถูกต้นโพธิ์กาฝากขึ้นล้อมต้นจนเกือบมิด อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาดูแล
ส่วนตนเองมีความพร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือปรังปรุงและสนับสนุนในการดูแลต้นไม้ ที่สำคัญของจังหวัดปทุมธานีต้นนี้ ถึงว่าเป็นของมีค่าของจังหวัดปทุมธานี ที่ผ่านมาขาดการดูแลจากหน่วยงานในจังหวัด ต้องรักษาไว้เป็นสมบัติให้ลูกให้หลานในอนาคต จะไม่มีต้นไม้ที่ใหญ่โตแบบนี้ให้ลูกหลานมาดูอีกแล้วหากต้นนี้ล้มลง เบื้องต้นได้คุยกับพระฎีกาอรรถพล อนุจารี เจ้าอาวาสวัดสิงห์ จะได้ประสานกรมส่งเสริมวัฒนธรรมก่อน
โดยเฉพาะอำเภอสามโคกสามารถพัฒนาส่งเสริมให้เป็นเมืองท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมได้ เพราะมีความพร้อมทุกด้านขาดแต่การส่งเสริมเท่านั้นและที่วัดสิงห์ ก็เป็นวัดคู่เมืองสามโคกมาอย่างช้านาน โดยวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา มีต้นสะตืออายุกว่า 300 ปี ซึ่งในปีนี้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ประกาศต้นสะตือที่วัดสิงห์เป็น 1 ใน 88 ต้นไม้เป็น “รุกขมรดกของแผ่นดิน” เพื่อรวบรวมข้อมูลต้นไม้เพื่อเผยแพร่และส่งเสริมให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และให้เด็กเยาวชนประชาชนเห็นความสำคัญของต้นไม้ นอกจากนี้ยังมีอุโบสถเก่าแก่อายุ 352 ปี มีวิหารโถงศาลาดินเป็นอาคารทรงไทย โกศพญากรายหน้าวิหารน้อย มีพระประธาน 4 ทิศ เป็นวัดเดี่ยวที่ประชาชนมากราบไหว้แล้วมีพระคุ้มครองถึงสี่ทิศ ซึ่งควรจะสนับสนุนเป็นท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดปทุมธานี
ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กล่าวว่า ตนเองมีความเป็นห่วงต้นสะตืออายุกว่า 300 ปี ที่ทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้เลือกให้เป็นรุกขมรดกของแผ่นดิน เนื่องจากต้นไม้ดังกล่าวเป็นต้นไม้โบราณมีขนาดใหญ่โต ขึ้นอยู่ริมวัดข้างคลองวัดสิงห์ เกรงว่าต้นไม้จะโค่นล้มลงไปในคลอง และที่ต้นไม้ถูกต้นโพธิ์กาฝากขึ้นล้อมต้นจนเกือบมิด อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาดูแล
ส่วนตนเองมีความพร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือปรังปรุงและสนับสนุนในการดูแลต้นไม้ ที่สำคัญของจังหวัดปทุมธานีต้นนี้ ถึงว่าเป็นของมีค่าของจังหวัดปทุมธานี ที่ผ่านมาขาดการดูแลจากหน่วยงานในจังหวัด ต้องรักษาไว้เป็นสมบัติให้ลูกให้หลานในอนาคต จะไม่มีต้นไม้ที่ใหญ่โตแบบนี้ให้ลูกหลานมาดูอีกแล้วหากต้นนี้ล้มลง เบื้องต้นได้คุยกับพระฎีกาอรรถพล อนุจารี เจ้าอาวาสวัดสิงห์ จะได้ประสานกรมส่งเสริมวัฒนธรรมก่อน