“สิงห์ศึก”เผยส.ว.จัดกลุ่มถกนโยบายรบ. ปัดตั้งองครักษ์พิทักษ์ "บิ๊กตู่" เน้นอภิปรายเน้นคุณภาพ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสัมมนาวุฒิสมาชิก เพื่อเตรียมความพร้อมการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ส.ว.จะจัดกลุ่มการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลทั้งในวาระปกติ และวาระเร่งด่วน โดยเน้นในเนื้อหาของการสอดคล้องของแผนการปฏิรูปประเทศและแผนยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงการใช้งบประมาณเพื่อดำเนินกาาร ทั้งนี้ในหลักการของงบประมาณประจำปี จะมีงบเพื่อใช้ด้านการพัฒนา เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นหากรัฐบาลต้องการขับเคลื่อนนโยบายจะต้องทำอย่างไร ทั้งนี้ยืนยันว่าการอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภา จะไม่เป็นไปเพื่อพิทักษ์บุคคลใด หรือตามที่มีบางฝ่ายตั้งประเด็นว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนหรือเป็นองครักษ์รัฐบาล เพราะส.ว. ฐานะที่อยู่ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 ต้องทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ และไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของฝ่ายใด “การอภิปรายของส.ว. จะเน้นคุณภาพ เป็นหลัก ส่วนจำนวน ส.ว.ที่จะอภิปรายนั้นยังไม่สรุปจำนวน เพราะจะให้ส.ว. ยื่นความจำนงจนถึงวันนี้ เวลา 18.00 น. ขณะที่เวลาอภิปรายรวมนั้นผมมองว่าส.ว.ควรได้รับ 5- 6 ชั่วโมงเพื่อให้อภิปรายได้ครบตามจำนวน อย่างไรก็ตามเรื่องเวลานั้นทราบว่านายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ฐานะรองประธานรัฐสภา จะหารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ฐานะประธานรัฐสภา อีกครั้งในวันพรุ่งนี้” พล.อ.สิงห์ศึก กล่าว พล.อ.สิงห์ศึก ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยกประเด็นของส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งเป็นส่วนหนึ่งของจุดอ่อนในการบริหารประเทศ ว่า ส.ว.​คือ ตัวแทนปวงชนชาวไทย และอยู่ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 ที่กำหนดให้ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ ไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำ ซึ่งสิ่งที่ส.ว.ต้องทำงานคือ พิสูจน์กรณีดังกล่าว ซึ่งตนเชื่อว่าประเด็นของส.ว.จะไม่ใช่จุดอ่อนอย่างแน่นอน ทั้งนี้ในที่ประชุมสัมมนายังหารือด้วยว่าต้องทำหน้าที่ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะต่อนโยบายรัฐบาลเป็นหลัก โดยไม่กล่าวพาดพิงหรือ กล่าวล่วงเกินฝ่ายใด ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับการสัมมนา ส.ว.เพื่อเตรียมความพร้อมอภิปรายนโยบายรัฐบาล มีผู้เสนความเห็นอย่างหลากหลาย ทั้งการตั้งคณะทำงานเพื่อชี้แจงหากพบว่า ส.ส.พรรคฝ่ายค้านพาดพิงส.ว.จนเกิดความเสียหาย, การอภิปรายที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เชื่อว่าส.ส.ฝ่ายค้านจะโจมตี ส.ส. ในลักษณะที่ไม่ต้องการให้แก้ไขเนื้อหา, หาส.ว.ที่มีความเชี่ยวชาญ การอภิปรายนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการเปิดกัญชาเสรี เพราะมองว่านโยบายดังกล่าวสร้างกระแสและผลกระทบกับสังคมเป็นวงกว้าง จึงควรให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นด้วย นอกจากนั้นยังมี ส.ว.ที่เสนอความเห็นต่อการอภิปรายนโยบายที่อยากให้เน้นการอภิปรายเรื่องนโยบาย ​ เช่น พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ส.ว. กล่าวว่า ในการแถลงนโยบายรัฐบาลนั้น ตนจะเป็นบุคคลที่ลุกขึ้นเสนอให้การอภิปรายเป็นไปตามกรอบของการอภิปรายเรื่องงบประมาณเป็นหลัก ส่วนบุคคลใดจะใช้สิทธิอภิปรายเรื่องรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตนจะขอให้นำข้อมูลไปใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล