ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในอีกไม่กี่เดือนประมาณต้นปี 63 ก็จะมีการเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่นระดับเทศบาลกันแล้ว หลายตำบลเริ่มมีความเคลื่อนไหว ที่จะวางตัวการเมืองท้องถิ่นกันบ้างแล้ว ดูจากหลายตำบลไม่มีความเคลื่อนไหวที่จะก่อความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะหลายตำบลมักจะมีนักการเมืองหน้าเก่า ๆ คนเดิมมาลงเล่นการเมืองระดับผู้บริหาร แต่ยังมีตำบลที่น่าจับตามองที่จะส่อแววว่าจะสู้กันหนัก ชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟันกันเลยก็มี แต่ที่น่าจับตาที่สุดก็เห็นจะเป็นที่ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ที่สนามนี้เป็นเทศบาลตำบลมาหลายปีแล้ว คือเทศบาลตำบลท่าศาลา ผู้ที่จะมาลงเล่นการเมืองสนามตรงนี้เป็นข้าราชการระดับยศ พันเอก ที่ยอมเสียสละตำแหน่งเงินเดือนเหยียบแสน อนาคตถ้าไม่มาเล่นการเมืองก็ต้องมียศเป็นนายพลติดตัวไปจนตาย แต่ทำไมจึงจะต้องลงมาเล่นการเมืองตรงนี้ ทั้งที่ชีวิตรับราชการยังเหลืออีกตั้ง 5 ปี ไม่เสียดายหรือศักดิ์ศรีความเป็นรั้วของชาติ มีทั้งเกียรติ และศักดิ์ศรี รองมาถามเขาดูว่าเพราะเหตุใดจึงต้องมาเล่นการเมืองและสนามท้องถิ่นด้วย ไม่ได้คิดจะไปเล่นการเมืองระดับชาติด้วย พันเอก สุชาติ ( เสธคัด) คัดสูงเนิน อดีตนายทหารสังกัด หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ประวัติผมมีฐานะทางครอบครัวที่ยากจน ได้แค่สอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบรุ่น 1/25 แต่ตอนนี้โชคของผมที่ ผมสอบ ได้คะแนนดี ได้ไปเรียนนักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 24 จนจบมา ตั้งแต่นั้นมาผมก็ รับราชการมาหลายตำแหน่ง มีกระทั่งตำแหน่งระดับรักษาความปลอดภัยผู้บังคับบัญชา และ คุมกำลังหน่วย ปราบปรามผู้ก่อการร้ายมาหลายปี และหน่วยราชการลับ แต่สาเหตุที่ผมต้องจำใจต้องลาออกจากราชการ เพราะได้มองเห็นในพื้นที่ ที่ผมอยู่อาศัยมานาน การเมืองแย่มาก แต่เราก็ไม่สามารถจะทำได้ เพราะเราไม่มีอำนาจในการพัฒนาท้องถิ่น ผมจึงตัดใจลาออกจากราชการทั้งชีวิตราชการของผมผมยังเหลืออีก 5 ปี ผมต้องออกมา เพื่อที่จะมาเล่นการเมือง เพื่อต้องการจะมาพัฒนาท้องถิ่นในตำบลที่เราอาศัยอยู่มาหลายสิบปี ผมบอกตามตรงนักการเมืองอยู่ในพื้นที่ตำบลท่าศาลา เหมือนไม่ทำอะไร ตำบลท่าศาลาที่เราอยู่อาศัยเหมือนไม่มีนักการเมืองไม่เต็มใจที่มีการพัฒนาให้ดีขึ้น แม้กระทั่งงบพัฒนาท้องถิ่นก็มีไม่น้อย แต่ผลที่ได้รับจากงบพัฒนาท้องถิ่นไม่สมกับค่าของเงินที่รัฐบาลให้มาแต่ผมไม่สามารถจะไปบอกผู้บริหารคนก่อน ๆ ได้ว่าทำไมไม่ทำ ทำไมไม่ออกมาดูแลประชาชน บ้างเลย ประชาชนเขาเดือนร้อนแค่ไหน เรื่องนี้ แม้ประชาชนเดือดร้อนก็ไม่กล้าเอ่ยปาก เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของนักการเมือง จึงปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ และอีกอย่างหนึ่งผู้บริหาร ก็ไม่ใช่คนในพื้นที่คนนอกพื้นที่แต่มาเล่นการเมืองในพื้นที่นี้ เสธคัด กล่าวอีกว่า ผมในฐานะคนในพื้น คนตำบลท่าศาลา ที่จึงคิดรับอาสาเองที่จะลาออกจากราชการ ไม่สนยศนายพล เพื่อจะอาสาพัฒนาท้องถิ่นบ้านเราอย่างเต็มตัว ไม่ต้องไปเอ่ยปากขอให้ผู้บริหารคนอื่นมาช่วยในการพัฒนาท้องถิ่น ภายหลังผมเอ่ยปากที่จะมาลงสมัครรับการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีตำบลท่าศาลา ในครั้งนี้ ผมได้รับแรงเชียร์จากประชาชนกันเป็นจำนวนมาก ไปทางไหนก็ถามกันว่าผมจะมาลงเล่นการเมืองเหรอ ประชาชนพากันดีอกดีใจกันใหญ่ ประชาชนเขาจะมีที่พึ่งเวลาเขาเดือดร้อนเพราะนักการเมืองระดับนายก เป็นคนในท้องที่ตำบลท่าศาลา ตอนนี้ผมได้ลงพื้นที่ไปพบปะประชาชน พูดคุยกับประชาชนมานานแล้ว ได้รับแรงเชียดีมากครับ ขอให้คำมั่นสัญญากับประชาชนว่าเลือกผมไม่ผิดหวังครับ เสธคัด กล่าวทิ้งท้าย