วันที่ 21 ก.ค. 62 พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนที่มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นประธาน กล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประเด็นข่าวใหญ่ 2 เรื่องที่ต้องให้ความสนใจอย่างมาก คือ 1.ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเพื่อวินิจฉัยข้อกล่าวหาว่า พรรคอนาคตใหม่ล้มล้างการปกครอง ทั้งๆที่เป็นพรรคที่เรียกร้องประชาธิปไตยให้กับประเทศ แต่ผู้นำการสืบทอดอำนาจที่เป็นผู้ล้มล้างรัฐธรรนูญของพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยกลับยืนค้ำหัวประชาชนอยู่ได้โดยไม่มีความผิดใดๆ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า และ 2.คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดว่า หัวหน้าคสช.เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้ผู้นำสืบทอดอำนาจในระหว่างเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีคุณสมบัติขัดกฎหมาย เพราะข้อห้ามเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่บางองค์กรอิสระก็โอบอุ้มกันให้มาเป็นนายกฯ โดยไม่แยแสประชาชน ขณะนี้ก็รอคอยผลจากศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ซึ่งก็เป็นองค์กรที่อยู่ระหว่างวิกฤตศรัทธาของประชาชนด้วย ทั้ง 2 ข่าวดังกล่าวล้วนเป็นผลพวงที่ยึดโยงมาจากรัฐธรรมนูญฉบับพิสดาร ซึ่งหากไม่ได้มีการแก้ไขก็จะนำสู่ปัญหาใหม่ตามมาอีกมากมาย จนนำสู่วิกฤติใหญ่ของประเทศได้ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่ขัดหลักธรรมชาติของประชาธิปไตย พล.ท.ภราดร กล่าวอีกว่า ทางคณะกรรมการฯ ได้ประสาน 7พรรคร่วมฝ่ายค้าน จัดเสวนาในหัวข้อทางออกวิกฤติชาติ โดยมีหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าร่วมในวันนี้ จึงถือเป็นฤกษ์ดีที่จะเริ่มส่งสัญญาณไปถึงพี่น้องประชาชนให้มามีส่วนร่วมเพื่อหาทางออกวิกฤติของประเทศ และขยับตัวร่วมกันรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเข้มข้นเพื่อมุ่งสู่การเกิดเป็นมติมหาชนให้ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน และเมื่อนั้นเงื่อนไขความยากของการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องถูกฝ่าฟันไปจนได้ เพราะอำนาจอธิปไตยนั้น เป็นของปวงชนชาวไทย ใครจะมาขัดขวางมิได้ ดังนั้น กิจกรรมนี้ถือเป็นเชื้อปะทุที่ควบคู่ไปกับภาคประชาชนที่ได้เดินสายรวบรวม 5หมื่นรายชื่อเพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญไปก่อนหน้านี้