สิ้นแล้ว หลวงพ่อจรัญ เจ้าอาวาสวัดไผ่สามตำลึง ครูพระนักสอนนักพัฒนา ศิษย์ทราบข่าวการจากไปอย่างกระทันหันถึงกับเศร้า โดยพระเลขาบอกว่าหลวงพ่อมีอาการอาพาธด้วยโรคหัวใจอยู่แล้ว วันที่ 20 กรกฎาคม 2562 เวลาประมาณ 13.00 น.พ.ต.ท. สมควร วิเวก พนักงานสอบสวนเวร สภ.บางเลน ได้รับแจ้งเหตุพระภิกษุสงฆ์ หลวงพ่อจรัญ เจ้าอาวาสหมดสติภายในกุฏิ ที่วัดไผ่สามตำลึง ม.8 ต.บางไทรป่า อ.บางเลน จ.นครปฐม รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ในที่เกิดเหตุที่ กุฏิเจ้าอาวาสวัดบางไผ่สามตำลึง เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม จุดบางเลน ร่วมกับรถกู้ชีพโรงพยาบาลบางเลน เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่มูลนิธิช่วยกันทำ CPR หลวงพ่อจรัญอย่าเร่งด้วย พร้อมทั้งใช้อุปกรณ์ ในการช่วยชีวิตเจ้าอาวาสวัดไผ่สามตำลึง อย่างเต็มที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่รีบนำร่างเจ้าอาวาสวัดไผ่สามตำลึงขึ้นรถพยาบาลนำตัวส่งโรงพยาบาลบางเลน เป็นการเร่งด่วนแต่หลวงพ่อไม่ฟื้นและมรณภาพในที่สุด โดยเมื่อทางคณะลูกศิษย์ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างตามมาที่โรงพยาบาลบางเลนกันจำนวนหนึ่งเพื่อติดตามดูอาการและอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ภายในวัดได้ ได้ช่วยกันเตรียมกางเต๊นท์ จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับสังขารของหลวงพ่อจรัญ กลับมาที่วัดไผ่สามตำลึงให้ชาวบ้านที่มีความเคารพศรัทธาได้ไปกราบไหว้หลวงพ่อจรัญในช่วงของการจัดพิธีศพ สำหรับ พระสมุห์จรัญ จารุธมฺโม เจ้าอาวาสวัดไผ่สามตำลึง สายมหานิกาย เกิดเมื่อ พ.ศ. 2507 อายุ 55 ปี บวชมาแล้ว 33 พรรษา เป็นเจ้าอาวาสวัดไผ่สามตำลึงมาแล้ว 12 ปี เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 3 พระอาจารย์เกจิจะสอนพระภิกษุสงฆ์ที่บวชใหม่สอนเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ สอนพระธรรมศึกษา แก่พระภิกษุสงฆ์มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นคณะสงฆ์มากมายและเป็นพระนักพัฒนา จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้ใหญ่บ้านบรรเจิด คณะกรรมการวัด พระภิกษุสงฆ์ ในวัด ภายในกุฏิ ของเจ้าอาวาสวัดไผ่สามตำลึง ไม่มีการรื้อค้นของในกุฏิเจ้าอาวาสแต่อย่างใด โดยพระใบฏีกา สันชัย จิณฺณธมฺโม พระเลขาฯ วัดไผ่สามตำลึง เล่าว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันเกิดเหตุ ได้รับโทรศัพท์ให้ไปรับใบรายงานการสอนศีลธรรมในโรงเรียนประจำเดือนสิงหาคม โดยเมื่อได้เดินมาหาหลวงพ่อจรัญท่านได้บอกว่าจะไปวัดบางหลวง ในอำเภอบางเลน จะกลับมาช่วง เวลา 11.15 น.ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้ฉันเพล แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่เห็นหลวงพ่อจรัญออกมาฉันเพล จึงได้สอบถามช่างไฟที่เข้ามาซ่อมไฟฟ้าให้กับหลวงพ่อจรัญ ทราบว่าหลวงพ่อนอน จำวัดในกุฎิ จากนั้นจึงได้เดินกลับกุฏิ กระทั่งช่วง 13.00 น.ได้มีพระจากอำเภอดอนตูมมาหาหลวงพ่อจึงได้เดินไปประตูกระจกด้านหน้าก็ไม่ได้ปิดล๊อก แต่ประตูด้านในปิดอยู่ จึงได้ไปตามช่างที่มาซ่อมไฟฟ้า ให้มาเรียกหลวงพ่อจรัญ เมื่อช่างไฟฟ้ามาถึงได้เปิดประตูเข้าไปพบหลวงพ่อจรัญนอนหงาย มือกางออก อ้าปากค้างจึงได้เร่งกันแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เรียกรถพยาบาลมารับและปฐมพยาบาลเบื้องต้นแต่หลวงพ่อก็มรณภาพในที่สุด โดยท่านมาอาการอาพาธด้วยโรคทางหัวใจเป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว