อธิบดีกรมชลประทาน สั่งชลประทานทุกจังหวัดช่วยเหลือเกษตรกร ประชาชน ดึงน้ำจากแม่น้ำปิง วัง น่าน เร่งด่วนผันเข้าลุ่มน้ำยม ใกล้แห้งขอด กระทบผลิตประปาและพื้นที่นาข้าวเสียหายจำนวนมาก เมื่อวันที่ 20 ก.ค.62 ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรณีเกษตรกรจากตำบลทุ่งแค้ว อำเภอหนองม่วงไข่ จ.แพร่มารับฟังแนวทางแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำจากโครงการชลประทานในพื้นที่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน โดยก่อนหน้านี้เกษตรกรออกมาร้องเรียนว่า จะรวมตัวลงขันไร่ละ 100 บาทเป็นค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำลงคลองชลประทานเพื่อส่งน้ำเข้าพื้นที่นา ซึ่งโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ยมชี้แจงว่า พื้นที่ตำบลทุ่งแค้วเป็นพื้นที่ส่งน้ำฝั่งขวาของฝายแม่ยม ปัจจุบันน้ำในแม่น้ำยมแห้งมาก มีอัตราการไหลเพียง 0.36 ลบ.ม.ต่อวินาทีเท่านั้นจึงไม่สามารถไหลเข้าคลองส่งน้ำฝั่งขวาของฝายแม่ยมได้ พื้นที่เพาะปลูกจึงขาดน้ำ ทั้งนี้สำนักงานชลประทานที่ 4 จะเร่งสำรวจสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่สามารถสูบน้ำได้และจัดรอบเวรการสูบน้ำจากแม่น้ำยมส่งให้พื้นที่ขาดแคลนน้ำ จนกว่าจะมีปริมาณฝนตกมาช่วยเสริมในพื้นที่ แต่จะควบคุมระดับน้ำในแม่น้ำยมไม่ให้ต่ำลงจนเกิดผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาของอำเภอสองด้วย ส่วนความเดือดร้อนของกลุ่มเกษตรกร ตำบลหนองโสนและตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตรกว่า 167 คน ซึ่งเดินทางมายังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่อทองแดง ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชรเพื่อขอให้เพิ่มการส่งน้ำไปให้ถึงพื้นที่ปลายคลองซึ่งอยู่ไกลจากปากคลองที่รับน้ำจากแม่น้ำปิงมากถึง 120 กิโลเมตร ที่สำคัญเป็นพื้นที่ ที่อยู่นอกแผนการส่งน้ำฤดูฝนปี 2562 โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัวจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 แต่การผนวกเข้าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ชลประทานจะได้รับการจัดสรรน้ำในปี 2563 แต่สำนักงานโครงการชลประทานที่ 4 ได้จัดสรรน้ำให้ตั้งแต่ปีนี้ผ่านท่อระบายน้ำ (ทรบ.) ปากคลองส่งน้ำวังบัว โดยรอรับน้ำจากแม่น้ำปิงที่ถูกแบ่งและส่งผ่านมาจากโครงการฯ ท่อทองแดงซึ่งในระหว่างทางต้องไหลผ่านพื้นที่ชลประทานในเขตจังหวัดกำแพงเพชรกว่า 4 แสนไร่ ซึ่งดึงน้ำไปใช้ ทำให้น้ำไม่สามารถส่งไปถึงพื้นที่ปลายคลองจึงทำให้นาข้าวหลายพันไร่เริ่มเสียหาย ล่าสุดทางชลประทานได้แก้ปัญหาโดยรับน้ำจากแม่น้ำปิงในอัตรา 50 ลบ.ม./วินาทีเพื่อส่งน้ำให้ไปถึงพื้นที่ตำบลหนองโสน และตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ซึ่งอยู่ในเขตโครงการส่งน้ำและบำรักษาวังบัว พร้อมกับขอรับการสนับสนุนปริมาณน้ำเพิ่มเติมในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร มายังพื้นที่ดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วยคาดว่า ปริมาณน้ำที่รับเพิ่มมากขึ้นจะไหลไปถึงพื้นที่เป้าหมายในวันนี้ สำหรับพื้นที่ที่เพาะปลูกพืชในช่วงฤดูฝนได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกให้ใช้น้ำฝนเป็นหลักและจะส่งน้ำชลประทานเสริมในพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอเท่านั้น พร้อมย้ำว้า การส่งน้ำช่วยเหลือจะส่งเฉพาะฤดูนาปีเท่านั้น หากเกษตรกรทำนาต่อเนื่องทางชลประทานจะไม่สามารถส่งน้ำให้ได้เนื่องจากต้องบริหารจัดการน้ำตามแผนให้เพียงพอถึงฤดูแล้งที่จะมาถึง “โครงการชลประทานทั่วประเทศพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภาวะขาดแคลนน้ำจากฝนทิ้งช่วง แต่ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ฝนจะกลับมาตกอีกครั้ง แม้แนวโน้มปริมาณฝนจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 5-10 แต่หากทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด รักษากติกาตามแผนการจัดสรรน้ำจะสามารถส่งน้ำจนกระทั่งเก็บเกี่ยวผลผลิต ทั้งนี้สิ่งสำคัญจะมีน้ำไว้ใช้อุปโภค-บริโภคตลอดฤดูแล้งตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 62 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 63 อย่างแน่นอน”อธิบดีกรมชลประทาน กล่าว ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส. จังหวัดสุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย นำราษฎรประมาณ 1,000 คน มาที่อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ในวันนี้ (20 ก.ค.62) พร้อมเครื่องมือเพื่อขุดลอกดินในอ่างเก็บน้ำให้สามารถมีพื้นที่กักเก็บน้ำอย่างเพียงพอ ซึ่งโครงการชลประทานสุรินทร์ดำเนินการประสานกับ ส.ส.ปกรณ์ โดยชี้แจงว่า ปัจจุบันกำลังศึกษาความเหมาะสมและขออนุมัติในหลักการจากผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์เพื่อให้ขุดลอกห้วยเสนง พร้อมได้เสนอแผนงานขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งประจำปี พ.ศ.2562 เพิ่มเติม ตามนโยบาย ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เมื่อวันที่ 18 ก.ค.62 แล้ว แต่ ส.ส.ปกรณ์ แจ้งว่า เกษตรกรต้องการมาขอให้ช่วยเหลือจากปัญหาขาดแคลนน้ำ