เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 17 ก.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียนมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพ จากผู้ใช้เฟชบุคชื่อ "Surapong Jaimaung" ที่ได้มีการโพสต์ภาพคนร้าย พร้อมข้อความระบุว่า “เตือนภัย..พี่ครับ รถยังประกอบไม่เสร็จจะรีบจูงไปไหนครับ. ลูกบันไดถีบก็ไม่ได้ใส่ ลมยางก็ยังไม่ได้เติมให้ เบรกเกียร์ก็ยังไม่ได้เช็ค คันเก่าเอามาเทินก็ไม่บอก เงินก็ยังไม่จ่าย ขอบคุณพี่ชายใจดีผ่านมาที่ช่วยตะโกนบอก รปภ.ศูนย์ฮอนด้าที่ช่วยดูแล ขอบคุณผู้กองเจมที่มาดูแลที่เกิดเหตุ///รถจักรยานอีกคันใครเป็นเจ้าของแจ้งมานะครับ” ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานงานไปยังเจ้าของเฟชบุค ซึ่ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรพงศ์ ใจเมือง อายุ 47 ปี เจ้าของร้าน "คุณเก่ง นครินทร์แหล่งรถ" พร้อมทั้งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายสุรพงศ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา พนักงานในร้านพักเที่ยง หน้าร้านซึ่งอยู่ริมถนนมิตรภาพ จึงไม่มีคนดูแล ขณะนั้นมีลูกค้าขับรถผ่านหน้าร้าน และเห็นคนร้ายจูงเอารถจักรยานในร้านไป ก่อนที่จะโทรศัพท์มาบอกว่ามีคนขโมยเอาจักรยานที่จอดขายอยู่หน้าร้านไปนะ "คนร้ายพยายามถีบจักรยาน แต่ถีบไม่ได้ และกำลังเข็นรถผ่านหน้าโชว์รูมรถฮอนด้า ซึ่งอยู่ห่างจากร้านไปประมาณ 200เมตร จึงรีบวิ่งตามไป และขอคามช่วยเหลือจาก รปภ.ที่โชว์รูม เพื่อช่วยควบคุมตัวคนร้ายไว้ และควบคุมตัวได้ด้วยดี คนร้ายไม่ขัดขืน ยอมให้จับและเดินตามกลับมาที่ร้าน เมื่อมาถึงร้านก็พบรถจักรยานเก่าๆของคนร้ายจอดทิ้งริมฟุตบาทหน้าร้าน ซึ่งมีโซ่พร้อมกุญแจคล้องเอาไว้" นายสุรพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า จักรยานที่คนร้ายขโมยไปจากร้านนั้นเป็นจักรยานเสือหมอบ ยี่ห้อ ยูมิโกะ ราคา 9,500 บาท โดยที่คนร้ายจูงไปแกะพลาสติกที่ห่อหุ้มรถและป้ายราคารถทิ้งไประหว่างทางด้วย และรถยังอยู่ในสภาพเดิม หลังคุมตัวไว้ก็รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นมารับตัวคนร้ายไป ซึ่งจากการพูดคุยเบื้องต้น ทราบเพียงว่าเป็นชาวบ้านหนองโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น อายุประมาณ 35-40 ปี ไม่พกบัตรประชาชน สื่อสารกันพอรู้เรื่อง "คนร้ายบอกว่า รถจักรยานคันที่จูงมาทิ้งหน้าร้าน เก่ามากแล้ว ขี่ไม่ได้ ขณะเดินผ่านหน้าร้าน เห็นจักรยานคันใหม่ที่จอดอยู่ จึงทิ้งคันเก่า และจูงเอาคันใหม่ ไม่ได้ขโมย แค่ยืมไปขี่ แต่ขี่ไม่ได้ เพราะไม่มีลูกบันไดถีบรถจักรยาน ยางก็ไม่ได้สูบ จึงทำได้เพียงเข็นไปเท่านั้น เท่าที่พูดคุยคิดว่าคนร้ายรายนี้น่าจะเป็นคนเร่ร่อน ไม่น่าจะเป็นมิจฉาชีพ โดยส่วนตัวไม่เอาเรื่อง ไม่แจ้งความ เพราะอยากให้โอกาสกลับตัว กลับใจมาเป็นคนดี ทั้งยังเป็นวันพระใหญ่ ไม่อยากทำบาป ให้โอกาสคนถือเป็นการทำบุญ ในส่วนของตำรวจนั้น เมื่อคุมตัวไปแล้วจะดำเนินการเช่นไรก็แล้วแต่จะเห็นสมควร"