วันที่ 17 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บริเวณทุ่งนา หมู่ 1 ต.สารจิตร อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย หลังได้รับแจ้งจากชาวนาในพื้นที่กำลังเดือดร้อนจากความแห้งแล้ง เนื่องจากไม่มีฝนตกในพื้นที่เป็นเวลานาน และชลประทานไม่ปล่อยน้ำมาให้ ทุ่งนาหลายร้อยไร่ที่มีการปลูกข้าวไว้แล้ว ต้นข้าวสูง 1 คืบ พื้นดินแห้งแข็งเริ่มแตกระแหง ไม่มีน้ำขังหล่อเลี้ยงต้นข้าว บางส่วนใบกำลังเหลืองใกล้ตาย แล้วยังมีเพลี้ยกัดกินใบข้าวซ้ำอีก นายลภน จินันตะ อายุ 62 ปี ชาวนา หมู่ 1 ต.สารจิตร เปิดเผยว่า ทำนา 45 ไร่ หว่านไปเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา ปกติต้นข้าวจะต้องสูงพ้นคันนาแล้ว แต่ขณะนี้สูงแค่คืบเดียว และทำท่าจะเหลืองแห้งตายจากการขาดน้ำ ซึ่งปกติจะมีฝนตกลงมา และชลประทานปล่อยน้ำจากอ่างแม่ท่าแพมาช่วย แต่ปีนี้ฝนทิ้งช่วงไปนาน ตั้งแต่หว่านข้าวไปมีฝนตกลงมาแค่ปรอยๆ ไม่ได้น้ำขังหล่อเลี้ยงต้นข้าว แถมชลประทานก็ไม่ปล่อยน้ำมาช่วย ถ้ายังเป็นอย่างนี้ชาวนาก็ได้แต่ยืนมองต้นข้าวตายไปต่อหน้า ทำอะไรไม่ได้ เงินที่ลงทุนไปกว่า 20,000 บาท ทั้งค่าพันธุ์ข้าว ค่าไถหว่านก็สูญเปล่า ถ้าจะทำใหม่ก็ต้องไปกู้นายทุนมาลงทุนอีก จึงอยากจะขอให้ชลประทานปล่อยน้ำมาช่วยบ้าง เพราะทราบว่ากักเก็บน้ำไว้ 30 ล้าน ลบ.ม. ไม่เช่นนั้นชาวนา 2 ตำบล เดือดร้อนแน่ๆ ขณะที่สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมที่ จ.สุโขทัย ก็ลดลงเป็นอย่างมาก ไม่สามารถสูบขึ้นมาผลิตเป็นน้ำประปาให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยใช้ได้ จนชาวบ้านบ่นกันทั้งเมือง เนื่องจากน้ำประปาไม่ไหล การประปาจึงต้องใช้น้ำจากแก้มลิง “ทุ่งทะเลหลวง” มาผลิตน้ำประปาจ่ายให้ใช้แทน สถานการณ์จึงผ่อนคลายไปได้