นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติแห่มาเที่ยวชมงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ที่เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ร่วมกับ ส่วนราชการ ชุมชน วัด และโรงเรียน จัดอย่างยิ่งใหญ่ เพื่ออนุรักษ์สืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของไทย มีคุ้มวัดส่งขบวนต้นเทียนเข้าร่วมประกวด 5 ขบวน ต้นเทียนเน้นแกะสลักเป็นตัวละครในพุทธประวัติ ขบวนรณรงค์ลด ละ เลิกบุหรี่ เหล้าเข้าพรรษา วันนี้ (17 ก.ค.62) นายกฤษฎา แก้วสองเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ที่ทางเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ร่วมกับส่วนราชการ ชุมชน วัด และโรงเรียน จัดขึ้นที่บริเวณถนนรมย์บุรี 200 ปี หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นการส่งเสริม สืบสานและอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่สืบไป เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดี และส่งเสริมให้ประชาชนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ตลอดจนเป็นการร่วมแรงร่วมใจ ของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษา วัด และชุมชน นอกจากนี้ ยังปลูกฝังขนบธรรมเนียม ประเพณีของท้องถิ่นไทย ให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชน ทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีขบวนต้นเทียนพรรษาประเภทแกะสลัก จากชุมชน และคุ้มวัด ส่งขบวนต้นเทียนที่แกะสลักตกแต่งอย่างสวยงามเข้าร่วมประกวดในงานประเพณีแห่เทียน ในครั้งนี้ จำนวน 5 คุ้มวัด ประกอบด้วย วัดกลาง(พระอารามหลวง) , วัดธรรมธีราราม, วัดหนองตราดน้อย , วัดทักษิณาวาส และวัดอินทรวนาราม ส่วนใหญ่ได้มีการแกะสลักต้นเทียนเป็นตัวละครในวรรณคดีและพุทธประวัติ โดยจะไม่มีการแกะสลักต้นเทียนที่เป็นการล้อเลียนการเมืองหรือบุคคลต่างๆ ที่จะส่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม ซึ่งขบวนเทียนได้แห่ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้ชื่นชนร่วมในการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทยสืบไป นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีกิจกรรมการหล่อเทียนพรรษา การประกวดเทียนพรรษา การประกวดขบวนแห่ ฟ้อนรำของโรงเรียน ชุมชน และคุ้มวัดต่างๆ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ขบวนรณรงค์ลด ละ เลิกบุหรี่ เหล้าเข้าพรรษา ให้ผู้ที่มาร่วมงานและนักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก นายกมล เรืองสุขศรีวงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า งานประเพณีแห่เทียนพรรษาที่ทางเทศบาลจัดขึ้น นอกจากจะเป็นการสืบสานงานบุญทางพุทธศาสนา เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่นอันดีงามของไทย แสดงถึงวิถีชีวิตของชุมชน การมีส่วนร่วมของชุมชน ความสามัคคีของคนในชุมชน ทำให้เยาวชนและประชาชน มีโอกาสได้ใกล้ชิด และสัมผัสกับศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีไทย อย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดในอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งคาดว่าการจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาในปีนี้ จะมีเงินสะพัดตามแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร ภายในจังหวัดหลายล้านบาท