เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 ในวันอาสาฬหบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ที่วัดพระธาตุดอยหินกิ่ว (ดอยดินกี่)บ้านวังตะเคียน ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้มีพุทธศาสนิชน เดินทางไปทำบุญและท่องเที่ยวชมพระธาตุดอยหินกิ่วหรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในวัดและรอบๆวัด จำนวนมาก เนื่องจากวัดแห่งนี้มีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญมากมาย โดยเฉพาะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คือพระธาตุดอยหินกิ่ว หรือดอยดินกี่ และเรือโบราณ ขนาดใหญ่อายุกว่า 200 ปี-ทางขึ้นดอยหินกิ่วบันไดพญานาค และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และพระพุทธศาสนา ฯลฯ มากมาย พระครูสมุทร์ผัด ปภัสโร เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยหินกิ่ว ได้พาไปดูเรือโบราณ อายุกว่า 200 ปี ซึ่งเป็นเรือที่พบเชิงดอยหินกิ่ว ประวัติพบเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2539 พบเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว ริมแม่น้ำเมยชายแดนไทย-เมียนมา เป็นเรือขนาดค่อนข้างใหญ่ กว้าง 126 เมตร ยาว 13.35 เมตร สูง 0.52 เมตร หนา 0.04 เมตร ส่วนหัวเรือและท้ายเรือ ยาวเท่ากันประมาณ 1.20 เมตร เรือลำนี้สันนิฐานว่าน่าจะเป็นเรือบรรทุกสินค้าและโดยสาร ระหว่าง 2 ฝั่งแม่น้ำเมย พระครูสมุทร์ผัด ปภัสโร เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยหินกิ่ว ฝากบอกบุญชาวพุทธ ว่าขณะนี้ทางวัดกำลังสร้างหอระฆังสูง สามารถร่วมทำบุญในช่วงเทศกาลวันอาสาฬหบูชา- และวัดเข้าพรรษา ประจำปี 2562 ได้ เพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนา สร้างหอระฆัง ชื่อเสียงในทางที่ดี โด่งดังกังวานไกล ทั่วดินแดนและต่างแคว้น รายงานข่าวแจ้งว่า วัดพระธาตุดอยหินกิ่ว นอกจากเป็นวัดที่สำคัญทางพุทธศาสนาแล้ว ยังถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเชิงศาสนาของ อ.แม่สอด จ.ตาก มีองค์พระธาตุที่ตั้งอยู่บนชะง่อนผาสูง โดยมีหินก้อนใหญ่บนหน้าผานั้น ซึ่งชาวบ้านต่างพากันขนานนามว่า “เจดีย์หินพระอินทร์แขวน” อีกทั้งหินที่อยู่บนดอยนี้ยังมีสีดำหรือน้ำตาลไหม้ บางคนจึงเรียกพระธาตุองค์นี้ว่า “พระธาตุดอยดินจี่” ซึ่งหมายถึงดินที่ถูกไฟไหม้นั่นเอง ภายในเจดีย์มีพระธาตุประดิษฐานอยู่เรียกกันว่า “พญาล่อง” ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวจังหวัดตากและจังหวัดใกล้เคียง พระธาตุดอยหินกิ่วนั้นหากมองลงมาจากองค์พระธาตุจะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของอำเภอแม่สอด และริมแม่น้ำเมย ที่สวยงามตามธรรมชาติ