นายพรนิพล แก้วเบญจาหรือบี้ อายุ 47 ปีลูกศิษย์และเป็นโยมอุปัฏฐากที่ปวารณาตัวเองจะถวายอาหารเช้าทุกวันแล้วก็ถวายค่าน้ำค่าไฟทุกเดือน แก่พระสมจิต เกิดทรัพย์หรือขันติธโรหรือหลวงพ่อแต ผู้ที่ถูกพระบัญชา สุภกิจโจ หรือจันทร์คำอายุ 37 ปีกับพวกฆ่าตายแบบทรมานด้วยการใช้น้ำมันชุบผ้าเหลืองทุบหน้าต่างโยนเข้าไปห้องนอนทำให้ถูกไฟคลอกและสำลักควันไฟตายเมื่อคืนวันที่ 6 ก.ค.ผ่านมา ซึ่งผู้ลงมือก่อเหตุเป็นลูกศิษย์ที่ผู้ตายให้ความไว้วางใจรักเสมือนเป็นลูก ถึงขนาดได้ส่งเสียให้เรียนหนังสือ รับเป็นลูกบุญธรรมยอมให้ใช้นามสกุลด้วย แต่มาเณรคุณรอบทำร้ายอาจารย์ตัวเองซึ่งเป็นผู้มีพระคุณถึงแก่มรณภาพอย่างทารุณนั้น นายพรนิพลเล่าถึงสาเหตุความขัดแย้งของพระลูกศิษย์กับพระอาจารย์ถึงขนาดโกรธแค้นมา 2-3 ปียังไม่สร่างซาต้องฆ่ากันให้ตายเป็นเพราะสาเหตุนี้คือ เมื่อประมาณปีพ.ศ.2560 ทางพระบัญชา ได้นำกฐินจากกรุงเทพฯมาเพื่อทอดถวายหาเงินสมทบซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก 3 ไร่ข้างสำนักสงฆ์เพื่อเพิ่มให้เป็น 6 ไร่ ให้เข้าหลักเกณฑ์ในการขอจัดตั้งวัด ในครั้งนั้นทางหลวงพ่อสมจิตหรือหลวงพ่อแต ได้รับถวายองค์กฐินจากชาวบ้านตำบลเหล่าทองที่อยู่ใกล้กัน แต่หลังจากนั้นอีก 2 วันพระบัญชาได้นำองค์กฐินร่วมกับญาติโยมมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาทอดถวายเช่นกัน แต่เนื่องจากว่าตามประเพณีการรับองค์กฐินวัดหนึ่งจะสามารถรับได้ครั้งเดียวต่อปี ทำให้หลวงพ่อแตไม่สามารถจะรับกฐินองค์ที่พระบัญชานำมาถวายได้ ทำให้พระบัญชาต้องเสียหน้าถูกญาติโยมที่นำกฐินมาด้วยต่อว่าต่อขานอีก สาเหตุหนึ่งก็คือก่อนหน้านี้พระบัญชาได้นำญาติโยมผู้มีจิตศรัทธานำรถมาถวายกับหลวงพ่อแต แต่หลวงพ่อไม่มีคนขับให้จึงได้นิมนต์พระ4 รูปมาอยู่ด้วยช่วยงานในการทำสมุนไพรและช่วยขับรถพาไปไหนมาไหน จึงสร้างความไม่พอใจให้กับพระบัญชาถึงขนาดมาขึ้นมาจากกรุงเทพฯ ขับไล่พระ 4 รูปนั้นออกจากวัดไป และยังกล่าวหาพระเสพเมถุนด้วย ซึงขณะนั้นยังอยู่ในช่วงจำพรรษาหลวงพ่อแตได้ปวารณาไม่พูดจากับใครจนกว่าถึงวันออกพรรษา จนหลวงพ่อต้องเสียสัจวาจาพูดกับพระบัญชาว่าอย่าพึ่งให้พระ 4 รูปออกไปจากวัดเลยอีก 5 วันก็จะออกพรรษาแล้วค่อยให้ท่านไปได้ แต่พระบัญชาไม่ยอมทำให้เกิดการขัดแย้งกันขึ้นกับหลวงพ่อแต และที่สุดพระบัญชาก็ได้นำรถยนต์คันดังกล่าวกลับไปใช้เอง ส่วนญาติโยมที่มาดูการทำแผนนอกจากสาปแช่งกลุ่มฆาตกรที่ทำทารุณกรรมโหดร้ายให้ตายตกนรก ยังบอกว่าหลวงพ่อแตเป็นคนดีให้เดือดร้อนอะไรมาท่านก็ช่วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเจ็บป่วยหรือเงินทอง มารักษากับท่านแล้วไม่มีเงินกลับท่านก็ให้ค่ารถกลับด้วย ถึงแม้จะพูดจาโผงผางแต่ก็ไม่เคยใจร้ายกับใคร.