นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการทำหน้าที่ตรวจสอบของพรรคฝ่ายค้านในสภาฯ ว่า พรรคเพื่อไทยยกระดับการทำงานในสภาฯ ให้มีความเข้มข้น ภายใต้แนวคิด ประชาชนคิด เพื่อไทยทำ นำทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนสะท้อนให้รัฐบาลเร่งแก้ไข ทั้งนี้ ระหว่างรอเอกสารนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงนั้น พรรคเพื่อไทยได้เตรียมผู้อภิปรายตามกรอบนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะให้ความสำคัญกับทุกมิติ รวมถึงคุณสมบัติของรัฐมนตรี ซึ่งมีผู้เสนอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความในประเด็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี หากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามก็ไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัย  นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับเดิมๆ เช่น มีการระบุคุณสมบัติไว้ว่า รัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หากตีความตามนี้จะมีรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติจำนวนเท่าไหร่ จากการรวบรวมข้อมูลในขั้นต้นจะมีรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายเรื่องคุณสมบัติจำนวนมาก ตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นายอุตตม สาว นายน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล นายนิพนธ์ บุญญามณี นายสาธิต ปิตุเตชะ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็นต้น “5 ปีที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ได้รับทั้งเวลาและโอกาสจากการมีเครื่องมือพิเศษเป็นตัวช่วย ถึงเวลาที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับโลกแห่งความเป็นจริงของการทำงานที่ฝ่ายตรวจสอบจะทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง หากเคารพและเชื่อมั่นประชาชน ต้องเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายได้ทำหน้าที่ โดยยึดเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นศูนย์กลาง”นายอนุสรณ์กล่าว