จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธินได้รับแจ้งเหตุนายโสภณ ทองกล่ำ อายุ 27 ปี ขี่วินรถ จยย.รัชดา-ตลาดไนท์ เบอร์39 อยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินลาดพร้าว ถูกยิงด้วยอาวุธปืน บริเวณเพลิงพักรถจักรยานยนต์ ภายในซอยรัชดาภิเษก32 แยก 5-4 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 62 เวลา 23.00 น. ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้แล้วทราบชื่อ คือ นายกฤติเดช โพธิ์พระ อายุ 27 ปี วินจักรยานยนต์หมายเลข84 วินปากซอยรัชดา32 สาเหตุเพราะแค้นถูกเบิ้ลเครื่องใส่หน้า ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 16 ก.ค. พ.ต.ท.ทัสสุมิ ยอดประทุมวัน รอง ผกก.สส.สน.พหลโยธิน ร.ต.ท.วัชรพล กลินติโต รอง สว.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน ควบคุมตัวนายกฤติเดช มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณเพิงพักรถจยย. ภายในซอยรัชดาภิเษก 32แยก 5-4 โดยให้ผู้ต้องหาทำท่าขี่รถจยย.ก่อนสอบถามถึงผู้ตายและเดินถือปืนจ่อยิงผู้ตาย 1 นัด มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนแสดงเป็นผู้เสียชีวิตใช้เวลาทำแผนไม่ถึง 5 นาทีมีบรรดาญาติ และเพื่อนของผู้ตาย มาเฝ้ารอดูเป็นจำนวนมาก โดยช่วงระหว่างทำแผน ญาติผู้เสียชีวิตพยายามพุ่งเข้าทำร้ายผู้ต้องหา และใช้คำหยายด่าทอผู้ต้องหาตลอด เนื่องจากนายกฤติเดช มีสีน่าเรียบเฉยเหมือนไม่สำนึกจึงทำให้ผู้คนยิ่งโกรธแค้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามกัน และรีบนำตัวผู้ต้องหากลับสน.พหลโยธิน ทันที น.ส.เพ็ญณี สีสินวัน อายุ 47 ปี แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. ตนได้นิมนต์พระสงฆ์มาอัญเชิญดวงวิญญาณ บริเวณที่เกิดเหตุ โดยส่วนตัวเชื่อว่าลูกชายรับรู้แล้ว เพราะตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ลูกชายไม่เคยมาหาหรือมาเข้าฝันใดๆ ทั้งสิ้น แต่หลังจากวันนี้เชื่อว่าลูกชายจะกลับมาหา ซึ่งตนอยากจะบอกว่าภูมิใจในตัวลูกชายมาก เพราะหลังจากเกิดเรื่องราวเลวร้ายขึ้น เจ้าหน้าที่ได้นำร่างของลูกชายไปเป็นกรณีศึกษาของนักศึกษาแพทย์ด้วย นอกจากนี้ตนอยากฝากถามถึงผู้ก่อเหตุว่า ทำอะไรทำไมไม่นึกถึงใจเขาใจเราถึงคุณจะรวยแต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำกับคนเช่นนี้ อีกอย่างคุณก็มีลูกน้อยทำไมคุณไม่คิดบ้าง และถึงกับน้ำตาไหลและพูดเสียงสั่นว่า “วันตายของลูก 14 ก.ค.เป็นวันเกิดของตน หลังลูกโทรมาอวยพรก็มาถูกยิงเสียชีวิต” ด้านนายศักดิ์ชัย ขุนทอง อายุ 42 ปี รุ่นพี่ผู้ตาย กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าผู้ตายไม่ใช่คนดื่มเหล้าเมาสุราอย่างที่มีการนำเสนอก่อนหน้านี้แน่นอน ส่วนประเด็นเมื่อ 2 ปีก่อน ทำไมถึงไม่เคลียร์กันตั้งแต่ตอนนั้น ทำไมพึ่งจะมาเคลียร์ตอนนี้ หรือว่ายังหาปืนไม่ได้ ที่ผ่านมาผู้ตายไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง จึงไม่มีใครทราบว่าผู้ตายและผู้ก่อเหตุมีเรื่องอะไรกัน และในวันที่เกิดเหตุ ขณะที่ตนกำลังนั่งพูดคุยเล่นอยู่กับผู้ตายนั้น จู่ๆ ผู้ก่อเหตุก็ขับรถจยย. มาบริเวณที่เกิดเหตุ และตะโกนเรียกหาผู้ตาย จากนั้นทั้งคู่ก็เดินไปคุยกันผู้เพียงลำพังประมาณ 1-2 นาทีก่อนที่พูดก่อเหตุจะใช้อาวุธปืนยิงที่ผู้ตาย 1 นัด จากนั้นผู้ก่อเหตุก็หันอาวุธปืนมาทางพวกตน และถามว่ามีใครจะเอาอีกไหม ตนขอถามว่า ในเมื่อเจอกรณีเช่นนี้ ตนสามารถฟ้องร้องได้หรือไม่ เพราะผู้ก่อเหตุนำอาวุธปืนมาข่มขู่ทำให้หวาดกลัว สุดท้ายนี้ตนไม่มีอะไรจะบอกผู้ก่อเหตุ และไม่มีอะไรจะบอกผู้ตายเช่นกันเพราะพูดไปก็ไม่ได้ยินแต่น้องคงรับรู้ได้ด้วยใจ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังที่ศาลอาญารัชดาภายในวันนี้ต่อไป