ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กถึงกรณีที่อำนาจในการเรียกปรับทัศนคติจากคสช.ถ่ายโอนไปเป็นของ กอ.รมน.ว่า...
เมื่อครั้งบิ๊กบังปฏิวัติ สภานิติบัญญัติชุดนั้นได้เป็นผู้ พิจารณาและออกกฎหมาย เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงภายในฉบับปัจจุบันนี้ ซึ่งผมก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นกองหน้าในการผลักดัน เพื่อใช้แทนกฎหมายเดิมซึ่งล้าสมัยมากแล้วเพราะตรามาตั้งแต่ยุคสงครามกับพรรคคอมมิวนิสต์และกฎหมายคอมมิวนิสต์ก็ยกเลิกไปนานแล้ว จากนั้นเขาก็ตั้งผมเป็นที่ปรึกษาของกอ.รมน.ภาค1เพื่อแนะนำในการบังคับใช้กฎหมายใหม่นั้น กฎหมายนี้ให้อำนาจกอ.รมน.ในการดำเนินการต่างๆเพื่อความมั่นคงของราชอาณาจักร ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของกองทัพคือการพิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตย ความมั่นคงปลอดภัยของชาติ พระมหากษัตริย์และประชาชน รวมทั้งการพัฒนาประเทศ! คำขวัญหน้าหน่วยทหารทั้งหลายที่ว่าเพื่อชาติ พระมหากษัตริย์และประชาชนนั้นก็มีที่มาจากบทบาทหน้าที่ของกองทัพตามรัฐธรรมนูญนี้เอง ดังนั้น เมื่อมีรัฐธรรมนูญใช้บังคับแล้ว และมีการโอนอำนาจตามมาตรา 44 ไปให้อำนาจ กอ.รมน.เรียกผู้คนไปปรับทัศนคติได้นั้น การใช้อำนาจดังกล่าวจึงต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญซึ่งจะไม่มีมาตรา 44 เป็นเกราะคุ้มกันอีกต่อไปแล้ว และ คสช.ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจตามมาตรา44 ก็จะสิ้นสุดลงพร้อมกับแสงตะวันในวันนี้แล้ว! การจะเรียกใครมาปรับทัศนคติ จึงต้องเป็นไปตามกฎหมาย เกี่ยวกับความมั่นคงและรัฐธรรมนูญ ดังนั้นผู้ที่มีความสุจริตและไม่ได้ทำผิดกฎหมายในเรื่องความมั่นคงก็ไม่ต้องวิตกใดๆให้เดือดร้อนวุ่นวายไป และใครก็อย่ามาพูดให้เรื่องนี้เป็นเรื่องภูตผีปีศาจที่น่ากลัวไปเลย!เพราะมันไม่จริง แค่นี้ก็ทำให้ลุงตู่ถูกด่าอ่วมแล้ว!