BIOMETRICS เจ๋ง! ช่วย ตม. จับพาสปอร์ตปลอม เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.62) ที่สตม.สวนพลู พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ปฏิบัติราชการ สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.สตม. และพล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 ได้สั่งการกำชับให้หน่วยงานในสังกัดทุกหน่วยเร่งรัดกวดขันจับกุม ตามนโยบายข้างต้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการนำเทคโนโลยี Biometrics มาใช้ในการทำงาน ทำให้เกิดผลปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยในช่วงที่ผ่านมามีผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คดีด้วยกัน 1. จับหนุ่มใหญ่ชาวเมียนมาร์ ปลอมพาสปอร์ตมาเลเซียและตราประทับ ตม.ไทย วันที่ 24 พ.ค. 62 เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จับกุม Mr.Soe อายุ 47 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ขณะแสดงหนังสือเดินทางประเทศมาเลเซียปลอมต่อฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อจะเดินทางไปเมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้สังเกตถึงความผิดปกติของลักษณะหนังสือเดินทาง และรอยตราประทับด่าน ตม.สะเดา ที่แตกต่างจากตราจริง ประกอบกับเมื่อนำหนังสือเดินทางตรวจสอบโดยระบบBiometrics พบว่าใบหน้าในระบบแตกต่างจาก Mr.Soe ซึ่งจากการสอบสวนผู้ถูกจับกุมให้การรับสารภาพว่าตนเป็นชาวเมียนมาร์ต้องการเดินทางไปฟิลิปปินส์ และใช้หนังสือเดินทางปลอมมาเลเซียจริง แต่ไม่ได้ให้เหตุผลที่ใช้หนังสือเดินทางปลอมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัว นำส่ง พงส. สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป 2. จับ 2 โกตดิวัวร์ ปลอมพาสปอร์ตมอริเชียส วันที่ 10 มิ.ย.62 เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จับกุม Mr.Akouani อายุ 21 ปี และ Miss Fofana อายุ 22 ปี สัญชาติโกตดิวัวร์ ขณะแสดงหนังสือเดินทางประเทศมอริเชียสเช็คอินสายการบิน Lufthansa พบบุคคลต่างด้าวต้องสงสัยแสดงหนังสือเดินทางประเทศมอริเชียส เช็คอินเที่ยวบิน LH773 เส้นทาง กรุงเทพ-เมืองแฟรงก์เฟิร์ต และเมื่อทำการตรวจสอบโดยระบบ Biometrics พบว่าระบบไม่สามารถอ่านไมโครชิพซึ่งฝังอยู่ในหนังสือเดินทางได้ ประกอบกับทั้ง 2 ราย ให้การสารภาพว่า ตนมิได้เป็นคนมอริเชียสแต่เป็นบุคคลสัญชาติโกตดิวัวร์ มีชายไม่ทราบชื่อสกุลสัญชาติโกตดิวัวร์ เป็นผู้จัดหาหนังสือเดินทางประเทศมอริเชียสปลอม โดยเสียค่าใช้จ่ายเล่มละ 200 ยูโร หรือประมาณ 7,000 บาท เพื่อใช้ในการเดินทางไปทำงานที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เนื่องจากหนังสือเดินทางประเทศมอริเชียสสามารถใช้ในการเดินทางไปยุโรปโดยไม่ต้องขอวีซ่า เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัว นำส่ง พงส.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดี 3. จับหนุ่มอินเดีย ปลอมพาสปอร์ตสิงคโปร์ วันที่ 23 มิ.ย.62 เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จับกุม Mr.Amith อายุ 41 ปี ขณะแสดงหนังสือเดินทางประเทศสิงคโปร์ เพื่อขอรับการตรวจออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งจะเดินทางโดยสายการAIR CHINA ไปเมืองเฉิงตู ประเทศจีน ผ่านเม็กซิโก ปลายทางประเทศแคนาดา และเมื่อทำการตรวจสอบโดยระบบ Biometrics พบว่าระบบไม่สามารถอ่านไมโครชิพ ซึ่งฝังอยู่ในหนังสือเดินทางได้ ทำให้ผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีชายทราบชื่อ BABA ชาวเนปาล เป็นผู้จัดหาหนังสือเดินทางประเทศสิงคโปร์ปลอม โดยเสียค่าใช้จ่ายเล่มละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 30,720.-บาท เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัว นำส่ง พงส.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป 4. จับหนุ่มไร้สัญชาติ ปลอมพาสปอร์ตไต้หวัน วันที่ 14 ก.ค. 2562 เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จับกุมนาย เหลียง เจิม โบ อายุ 32 ปี ไม่ทราบสัญชาติ ขณะแสดงตนเข้ารับการขอตรวจลงตรา เพื่อเข้าสู่ราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่ฯ พบพิรุธจึงเข้าทำการตรวจสอบ โดยใช้เครื่องตรวจสอบหนังสือเดินทาง VSC 6000 และ Verifier TD&B ตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล ตรวจสอบจากคุณลักษณะนิรภัยของหนังสือเดินทาง และตัวอย่าง Specimen หนังสือเดินทาง TAIWAN เปรียบเทียบ พบว่ามีการปลอมแปลงหน้าข้อมูลบุคคลหนังสือเดินทาง (Counterfeit Bio Data Page) จากการสอบสวนผู้ถูกจับกุมให้การรับสารภาพว่า ได้จ่ายค่าดำเนินการจำนวน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 600,000 บาท ให้แก่ชายชาวไต้หวันไม่ทราบชื่อ เพื่อใช้เดินทางเข้าไทย เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัว นำส่ง พงส.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป 5. จับหญิงจีนมีหมายแดงกลางสนามบินภูเก็ต ไม่รอด Biometrics! วันที่ 12 ก.ค. 2562 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ได้จับกุม MS.li สัญชาติจีน อายุ 40 ปี ขณะแสดงตนขอเดินทางออกราชอาณาจักรที่ ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองขาออก ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบผ่านระบบ Biometrics ก็พบว่าระบบได้ทำการแจ้งเตือนว่าบุคคลดังกล่าว เป็นบุคคลที่ทาง สอท. สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยและหัวหน้าผู้แทนกระทรวงสาธารณะความปลอดภัย (MPS) ของจีนประจำกรุงเทพฯ ได้ขอความร่วมมือให้จับกุม เนื่องจากเป็นบุคคลตามหมายจับ โดยถูกสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดี การฝากเงินของประชาชน โดยได้รับเงิน 100 ล้านหยวน อย่างผิดกฎหมายและเป็นบุคคลที่ทางการจีนต้องการตัว เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัว นำส่ง พงส.บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินคดีต่อไป หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดของคนต่างด้าว หรือคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือ 02-134-0303