เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 15 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากกำนันพิทักษ์ อยู่สุข กำนันต.บางรักพัฒนา มีลูกบ้านคือนายสมศักดิ์ (ขอปิดบังนามสกุล) อายุ 48 ปี อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว พักอยู่หมู่บ้านบัวทองธานี 2 อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่า นายโอ๊ต (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ลูกชายถูกคนร้ายขับรถจยย.มาก่อเหตุลักโทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 พลัส และกระเป๋าเงินที่มีบัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม บัตรประชาชน และเงินสดจำนวน 1,000 บาท หลบหนีไป หลังลูกชายเมาหลับหมดสติอยู่ที่หน้าบ้าน เหตุเกิดเวลา 03.57 น.วันที่ 14 ก.ค.62 โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน และได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพได้เมื่อเวลา 03.02 น.นายโอ๊ตได้นั่งรถแท็กซี่มาลงที่หน้าบ้าน โดยใรมือถือกระเป๋าเงินและโทรศัพท์มือถือ จากนั้นได้นั่งลงที่บริเวณถนนหน้าบ้านพร้อมกับหลับไป ต่อมาเวลา 03.57 น.กล้องตัวเดิมจับภาพคนร้ายขับรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว สวมเสื้อยืดแขนสั้น สวมกางเกงขาสั้น ไม่สวมหมวกกันน็อค ขับมาจากปากซอยบัวทอง 20/11 ผ่านจุดที่ผู้เสียหายนอนอยู่ โดยคนร้ายได้มองมาที่ผู้เสียหายคาดว่าน่าจะเห็นทรัพย์สิน จากนั้นคนร้ายได้ขับผ่านไปและวนรถจยย.กลับมาจอดที่ข้างผู้เสียหายและได้ลงไปก้มหยิบโทรศัพท์และกระเป๋าเงิน ก่อนขับรถจยย.ออกไปทางเดิม กล้องตัวที่สองจับภาพพฤติกรรมและหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจนขณะลงมาจาก รถจยย.และลักทรัพย์ของผู้เสียหายหลบหนีไป นายสมศักดิ์ (ขอปิดบังนามสกุล) บิดาของผู้เสียหาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุลูกชายไปปาร์ตี้กับเพื่อนกลับมาเมาไม่ได้สติ เข้าบ้านไม่ไหวนั่งหลับอยู่หน้าบ้าน มือถือกับกระเป๋าเงินก็หายไป จากกล้องวงจรปิดเห็นรถจยย.ขับผ่านมาน่าจะเห็นกระเป๋าเงิน คนร้ายวนกลับมาแล้วหยิบไป ปกติเขาไม่ได้เป็นแบบนี้จะเข้าบ้านได้ ลูกชายเมายังไงก็จะกลับเข้าบ้านได้ตลอด มีเมื่อคืนเกิดเหตุเขาหนักสุด ไปกินกับเพื่อนที่ห้วยขวาง ได้แจ้งความลงประจำวันไว้แล้ว ตอนนี้ลูกชายไปเดินเรื่องทำเอกสารใหม่ น่าจะเข็ดไปอีกนาน อยากให้ตำรวจตามตัวคนร้ายเพื่อจะตามเอกสารที่หายกลับมา ส่วนของคงขายต่อไปแล้วส่วนคนร้ายก็อยากให้ได้ตัวไม่ใช่ไปซ้ำเติมคนที่หลับหมดสติแบบนี้ ส่วนลูกชายได้ตักเตือนไปว่าเป็นผลจากการที่เมาจนครองสติไม่อยู่ ครั้งนค้เหมือนซื้อเป็นบทเรียนให้เขาได้จดจำด้วย เบื้องต้นนายสมศักดิ์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันและนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปมอบไว้เป็นหลักฐานแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ นายโอ๊ต เดินทางเข้าแจ้งความอีกครั้งในวันที่ 17 ก.ค.62 พร้อมสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป