เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 15 ก.ค.62 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายวิโรจน์ หอมไม่วาย หรือ “อ๊อด สระบุรี ” อายุ 53 ปี อยู่ที่อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ จพ 224/2559 ลงวันที่ 20 ต.ค. 2559 ต้องหาว่า “กระทำผิดฐาน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 274,000 เม็ด และ ยาไอซ์ จำนวน 2.6 กิโลกรัม อาวุธปืนแบบอโตเมติก ชนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวน 53 นัด กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 19 นัด และแม็กกาซีน อาวุธปืน พกสั้น กึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 อัน โดยจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนหมู่ที่ 9 ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า พฤติการณ์ของผู้ต้องหาเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจภูธรภาค 1 บช.ปส. และ ป.ป.ส. โดนก่อนหน้านี้เคยถูกจำคุกในคดีค้ายาเสพติด และยังคงลักลอบจำหน่ายยาเสพติดอยู่ในปัจจุบัน จากการสืบสวนและได้รับแจ้งข้อมูลจากสายลับทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 9 ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ดังกล่าว ก่อนนำตัวมาสอบสวนขยายผล พบว่าผู้ต้องหาได้ได้เช่าห้องไว้เพื่อซุกซ่อนยาเสพติด ที่ห้องเช่า ไม่ทราบเลขที่ ต.หนองโน อ.เมือง จ.สระบุรี จากการตรวจค้นพบ ยาบ้า จำนวน 274,000 เม็ด และ ยาไอซ์ จำนวน 2.6 กิโลกรัม และอาวุธปืน จึงควบคุมมาสอบสวน พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องหาได้มีการซ้อมยิงปืนอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าเอาไว้ต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่โชคดีในวันเข้าขณะจับกุม ผู้ต้องหาไม่ได้พกปืนไปด้วย จึงไม่เกิดการสูญเสีย ทั้งนี้อยู่ระหว่างการหาความเชื่อมโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแฝดนรก คือ นายชัยวุฒิ หรือแม็ก คิสเนอร์ และนายศุภชัย หรือมิก คิสเนอร์ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมไปก่อนหน้านี้หรือไม่ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ลักลอบส่งยาเสพติดในลักษณะนี้มาแล้วจำนวน 3 ครั้ง โดยยาเสพติดที่พบในห้องนี้เป็นครั้งที่ 4 ซึ่งได้รับเงินค่าจ้างในการส่งยาเสพติดครั้งนี้มาแล้ว จำนวน 150,000 บาท จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะได้ทำการสืบสวนขยายผลและจับกุมบุคคลในเครือข่ายต่อไป สำหรับประวัติการถูกดำเนินคดีของนายวิโรจน์ พบว่าเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2545 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จับกุมในข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 8,200 เม็ด ศาลพิพากษาจำคุก 25 ปี ออกจากเรือนจำ ปี พ.ศ.2557 และครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามโคก จว.ปทุมธานี จับกุมในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) 160 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อมาได้รับการประกัน