หลังจากที่ได้มีชาวประมงพื้นบ้าน ได้พบบซาก พะยูน สัตว์ทะเลหายากที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างเต็มที ได้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุลอยอยู่ ในทะเลกระบี่ ในช่วงเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 12-14 ก.ค.ที่ผ่านมา พบพะยูนลอยตายในทะเลกระบี่ ถึง 2 ตัว โดยผลผ่าพิสูจน์ซากพะยูนบางตัว พบถูกลักลอบตัดเขี้ยว หวังนำไปทำเครื่องประดับและเครื่องรางของขลังตามความเชื่อ ส่งผลให้ประชากรพะยูนในทะเลกระบี่ ที่เคยสำรวจ พบจำนวน 12 ตัว เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา คาดว่าเริ่มลดลง ขณะที่ทางกลุ่มอนุรักษ์ มีความเป็นห่วงพะยูนกลัว จะสูญพันธ์ จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการแก้ปัญหาโดยเร็ว นายอาหลี ชาญน้ำ นายกสมาคมคนรักเลกระบี่ ได้เปิดเผยว่า พะยูนที่ได้ตายในพื้นที่ฝั่งอันดามัน ในเขตพื้นที่ท้องที่ทะเล กระบี่ อย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ซึ่งทางสมาคนคนรักเล ได้มีการประชุมเครือข่ายคนรักเล เพื่อหามาตรการเฝ้าระวังป้องกัน ไม่ให้พะยูนถูกทำร้าย ในเบื้องต้นจึงได้มีการจัดตั้งเครือข่าย “อาสาสมัครพิทักษ์พะยูน”ขึ้น พร้อมนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อจะได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการเฝ้าระวังดูแลพะยูนในพื้นที่ หลังจากที่ได้มีพะยูนตายมาแล้วถึง 3 ตัว จนถึงขณะนี้ ทุกหน่วยงานยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ว่ามันเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร ทั้งนี้ที่แน่ๆ จะสังเกตุได้ว่า เขี้ยวของพะยูนได้หายไป แสดงว่าได้มีคนเอาไป แต่จะเอาไปหลังจากที่พะยูนตายแล้ว หรือตอนที่ยังไม่ตายที ก็ยังไม่มีใครทราบ แต่ตนเชื้อแน่เหลือเกินว่า พะยูน อยู่ๆ มันจะตายเองโดยไม่มีสาเหตุ มันเป็นไปไม่ได้ ในทะเลไม่มีโรคระบาด พูดแบบเข้าใจกันง่ายๆ ก็คือ จะต้องมีคนทำให้ตาย เนื่องจากว่าเพื่อเอาเขี้ยวของมัน ซึ่งเป็นของหายาก แถมยังมีราคาแพงอีกด้วย เรื่องนี้ตนเชื่อว่ามีการล่าพะยูนตามออเดิ้อที่สังมา ทราบมาว่า เขี้ยวพะยูนคู่หนึ่ง มีราคาไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท บางก็ที่นำไปทำเป็นเครื่องรางของขลัง บ้างก็ นำไปทำเป็นหัวแหวน และยิ่งกว่านั้น คนบางกลุ่ม มีความเชื้อว่า ถ้ามีเขี้ยว หรือ งา ของพะยูนไว้ในครอบครองแล้ว จะเป็นมงคลแก่ชีวิตตัวเอง และครอบครัว สาเหตุดังกล่าวซึ่งเป็นที่มาของการตายของพะยูนอย่างแน่นอน อาหลี ชาญน้ำ นายอาหลี ยังกล่าวเพิ่มอีกว่า พะยูน ที่พบเป็นซากลอยตายในทะเลกระบี่ เมื่อ 3วันที่ ผ่านมา รวม 2 ตัว และมี 1 ตัวเขี้ยวถูกตัดหายไป ทั้ง 2 ข้าง เชื่อว่ามีคนตัดออกไป อย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นการล่าเพื่อเอาเขี้ยว หรืออย่างไร ตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ถ้าหากว่า เราไม่ช่วยกันหามาตรการป้องกัน มีหวังพะยูนที่เหลืออยู่จะหมดไป และสูญย์พันธุ์ ไปในที่สุด เพราะว่าเท่าที่ทราบพะยูนฝูงสุดท้าย ที่พบได้อาศัยอยู่ฝั่งอันดามัน ระหว่างทะเลตรัง กับกระบี่ เท่านั้น ที่อื่นไม่มีปรากฎ