สังเวยอีกถนนมรณะ หนุ่ม นศ.ขับกระบะชนประสานงา ดับคาที่ สาหัสอีกสาม สุดเศร้ากลับจากซื้อเทียนพรรษา ยังไม่ทันทำบุญ คาดต้นเหตุก่อสร้างถนนใหม่ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 กรกฎาคม 2562 ร.ต.ท.วรพรต อุติลา รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนประสานงากัน มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บนถนน ทล 22 สายนครพนม-สกลนคร ช่วงบ้านหนองหญ้าไซ หมู่ 7 ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม ชุดกู้ชีพ 1669 ทีมกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม ชีพ อบต.กุรุคุ กู้ชีพ อบต.บ้านผึ้ง รถกู้ชีพ รพ.ค่ายพระยอดเมืองขวาง ร่วมตรวจสอบ ช่วยเหลือผู้ได้ รับบาดเจ็บ โดยในที่เกิดเหตุ เป็นถนน ช่วงกำลังก่อสร้าง ขายเส้นทางการจราจร จาก 2 ช่อง เป็น 4 ช่อง จราจร พบ รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน บง 5542 นครพนม อยู่ฝั่งมุ่งหน้าไป จ.สกลนคร อยู่ในสภาพชนประสานงากับกับรถยนต์ กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บท 1220 อุตรดิตถ์ ที่ขับสวนมา สภาพพังเสียหาย หนักทั้งคู่ ตรวจสอบภายในรถยนต์ กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน บง 5542 นครพนม พบคนขับเสียชีวิตคาที่ติดในรถ ทราบชื่อภายหลังคือ นายจีรภัทร ไชยเสนา อายุ 25 ปี เป็นนักศึกษาชั้นปี 4 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร คณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ชาวบ้านโคกสูง ต.มหาชัย อ.ปลาปลาก จ.นครพนม ส่วนอีกคนทราบว่าเป็นน้องชาย นั่งมาด้วย ไม่ทราบชื่อ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่รู้สติ เจ้าหน้าที่ จึงเร่งช่วยเหลือนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม นอกจากนี้ในรถยังพบเทียนพรรษาตกอยู่ 2 เล่ม ส่วนรถยนต์คู่กรณีอีกคัน ได้รับบาดเจ็บ ทั้ง 2 ราย มีชายคนขับอายุประมาณ 35 ปี ส่วนคนนั่งเบาะข้าง อายุ ประมาณ 60 ปี ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม อาการสาหัส ทั้งคู่ รวมมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 3 ราย เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเก็บหลักฐาน เร่งหาสาเหตุโดยละเอียดดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นจากการสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า ผู้เสียชีวิต ได้ขับรถยนต์กระบะกลับมาจากทำธุระ ซื้อเทียน เตรียมไป ทำบุญเข้าพรรษา กับน้องชาย ช่วงขากลับ ถึงที่เกิดเหตุ คาดว่า รถยนต์ทั้ง 2 คัน น่าจะมีคันใดคันหนึ่ง เสียหลัก พึ่งชนประสานงา เนื่องจากอาจไม่ชินเส้นทาง แต่ขับด้วยความเร็ว โดยเส้นทางดังกล่าว ถือเป็นจุดเสี่ยง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ขยายช่องทางจราจร ทำให้ มีการถมดินลูกรังเป็นคันคูสองฝั่ง ทำให้เส้นทางเดิมเป็นร่องลึก หากขับรถไม่ทันระวัง เบียดไหล่ทาง จะทำให้รถเสียหลัก เกิดอุบัติเหตุทันที บวกกับจุดเกิดเหตุจะเป็นเนินสูง มีอุปสรรคในการมองเห็น ซึ่งเส้นทางดังกล่าว เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตบ่อย ครั้ง เมื่อเดือนที่ผ่านมา พึ่งเสียชีวิตไป 1 ราย บาดเจ็บอีกหลายราย จนชาวบ้าน ให้ฉายาว่า 4 เลน มรณะ และชาวบ้านผู้ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมาเคยเรียกร้องให้ แขวงทางหลวงนครพนม ประสานผู้รับจ้างหารือแก้ไข แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ยิ่งช่วงฝนตกหนักมีน้ำขังสูง สร้างความเดือดร้อนให้ผู้สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก