“ปตท.”เตรียมข้อมูลเสนอรัฐมนตรีพลังงานใหม่ โดยเฉพาะไบโอดีเซล-ราคาพลังงานขึ้นลงตามกลไกตลาด แนะใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐอุดหนุนผู้มีรายได้น้อยระบุการดูแลค่าโดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อเพลิงกำหนดเป็น FUEL CHARGE ค่าโดยสารปรับขึ้นลงตามราคาน้ำมันที่แท้จริง นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ได้เตรียมข้อมูลเพื่อเสนอนายสนธิรัตน์ สนธิจิรววงศ์ รมว.พลังงานคนใหม่ เพื่อให้เกิดการบริหารด้านเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ มั่นคง และเป็นประโยชน์ทุกภาคส่วน โดยในส่วนของเชื้อเพลิงชีวภาพไบโอดีเซลนั้น กระทรวงพลังงานควรจัดประชุมร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ประกอบการน้ำมันโรงกลั่นน้ำมัน โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม โรงงานผลิตบี 100 และเกษตรกร เพื่อวางแผนร่วมกันในอนาคตว่าจะจัดการอย่างไร เพื่อให้เกิดกลไกที่ยั่งยืน เพราะหากผสมมากหรือน้อย ก็จะกระทบมาถึงน้ำมันและน้ำมันเพื่อการบริโภค โดยพืชน้ำมันเช่น ปาล์ม ยอมรับว่าดูแลยาก หากราคาดี เกษตรกรก็จะปลูกกันเยอะ หรือกรณีแล้งก็ไม่มีผลปาล์ม เพราะฉะนั้นต้องวางแผนร่วมกัน โดยเห็นว่าควรให้มีความยืดหยุ่นให้บี 10 เป็นน้ำมันพื้นฐาน โดยสเปกกำหนดให้สวิงได้เช่น ผสมได้ตั้งแต่บี 5 ถึง บี 10 หากช่วงไหนปาล์มแพงก็ผสมน้อย หากปาล์มราคาถูกก็ผสมมาก เป็นต้น ทั้งนี้กระทรวงพลังงานควรพิจารณาถึงชนิดของน้ำมัน ควรจะปรับชนิดให้น้อยลง ทั้งกลุ่มเบนซิน และกลุ่มดีเซล โดยในส่วนดีเซลก็ควรใช้บี 10 เป็นพื้นฐานทดแทนบี 7 ขณะที่ในปั๊มน้ำมันไม่ควรขายบี 20 โดยบี 20 ก็ไปจำหน่ายเฉพาะฟลีทรถบรรทุกเท่านั้น โดยบี 20 ยังมีปัญหาในกรณีที่อากาศเย็นอาจจะเป็นไขและมีผลกระทบต่อเครื่องยนต์ได้ ซึ่งการที่แต่ละปั๊มมีการจำหน่ายน้ำมันหลายชนิดมากเกินไปจะกระทบต่อการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ต้องมีการขายน้ำมันหลายชนิด ขณะที่ยอดขายหรือรายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด สำหรับในส่วนของราคาพลังงานควรจะปรับขึ้นลงตามกลไกตลาดทั้งหมด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการใช้พลังงานเช่น ก๊าซแอลพีจีและเอ็นจี ก็ควรสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพราะประเทศไทยไม่ใช่ผู้ผลิตปิโตรเลียมรายใหญ่ต้องมีการนำเข้าเป็นหลัก ดังนั้นจึงไม่มีวงเงินอุดหนุนสูงเหมือนกับประเทศผู้ผลิตน้ำมัน โดยการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยควรจะมีการช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขณะที่การดูแลค่าโดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อเพลิงที่เปลี่ยนแปลงควรใช้หลักเหมือนกับต่างประเทศคือ ดูช่วงของราคาน้ำมันแล้วกำหนดเป็น FUEL CHARGE ค่าโดยสารจะปรับขึ้นลงตามราคาน้ำมันที่แท้จริง "ที่ผ่านมาช่วยเหลือราคาเอ็นจีวี แอลพีจี แก่แท็กซี่ โดยหวังว่าจะช่วยลดค่าโดยสาร แต่ผ่านมาจะเห็นว่า แท็กซี่หลายรายได้เก็บค่าโดยสารสูง ซึ่งจะเห็นข่าวจากค่าโดยสารฝรั่งโดนโขกราคา ดังนั้นหากตั้งใจช่วยผู้มีรายได้น้อยควรไปช่วยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะดีที่สุดแล้วปรับอัตราโดยสารขึ้นลงตาม FUEL CHARGE"