พาณิชย์ จ.บุรีรัมย์ ออกตรวจร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ เทียนพรรษา ป้องกันการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา นำผลิตภัณฑ์หมดอายุ หรือเสื่อมคุณภาพมาสอดไส้วางจำหน่ายในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา หากพบหรือได้รับร้องเรียนขายแพงเกินจริงหรือเอาเปรียบผู้บริโภคเอาผิดตามกฎหมาย แม่ค้า เผย ปีนี้ยอดขายลด 20% วันนี้ (15 ก.ค.) นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ นายจักรพล จงใจภักดิ์ ผอ.กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจร้านจำหน่ายเครื่องสังฆทาน และเครื่องสังฆภัณฑ์ เทียนพรรษา ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือลักลอบนำสินค้าหมดอายุ เสื่อมคุณภาพ และไม่ได้มาตรฐาน มาบรรจุใส่ชุดเครื่องสังฆภัณฑ์วางจำหน่ายในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ปี 2562 ที่ชาวไทยพุทธจะนิยมซื้อต้นเทียน และเครื่องสังฆภัณฑ์ไปทำบุญตามวัดต่างๆ เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณีอันดีงามของไทยเป็นประจำทุกปี โดยจากการออกสุ่มตรวจร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์พบว่า มีการปิดป้ายแสดงราคา และรายการสินค้าในชุดสังฆภัณฑ์ที่นำมาวางจำหน่าย อย่างไรก็ตาม หากได้รับร้องเรียนหรือสุ่มตรวจพบผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนไม่ปิดป้ายแสดงราคา หรือรายการสินค้าที่นำมาบรรจุในชุดเครื่องสังฆภัณฑ์ หรือนำสินค้าหมดอายุเสื่อมคุณภาพมาสอดไส้ในชุดสังฆภัณฑ์ และมีการจำหน่ายแพงเกินความเป็นจริง จะถูกดำเนินการเอาผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ขณะที่ผู้ประกอบการจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ ยอมรับว่า ปีนี้ยอดจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ลดลงร้อยละ 20 ส่วนมากปีนี้ลูกค้าจะซื้อราคาถูกลง บางคนก็จะรวมซื้อเป็นกลุ่มหรือหมู่บ้าน โดยการสุ่มตรวจร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือนำสินค้าหมดอายุเสื่อมคุณภาพมาสอดไส้ในชุดสังฆภัณฑ์วางจำหน่ายให้ลูกค้าที่จะซื้อไปทำบุญ พร้อมกันนี้ ยังได้ย้ำเตือนผู้ประกอบการและพ่อค้าหัวใสที่ตระเวนซื้อเครื่องสังฆทาน และต้นเทียนตามวัดต่างๆ ที่พุทธศาสนิกชนนำไปถวายพระแล้วนำกลับมาเวียนขายในราคาถูก เพราะสินค้าบางประเภทที่บรรจุในชุดเครื่องสังฆภัณฑ์อาจหมดอายุ หรือเสื่อมคุณภาพ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อพระสงฆ์ หรือผู้ที่นำไปใช้ได้ หากตรวจพบก็จะดำเนินการเอาผิดผู้ประกอบการดังกล่าวเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่พบมีการกระทำผิดแต่อย่างใด