เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม เวปไซด์ขององค์การการค้าโลก (WTO) เผยแพร่คำตัดสินครั้งที่สองของคณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาท โดยคณะผู้พิจารณาขององค์การการค้าโลกเห็นด้วยตามข้อเรียกร้องของประเทศฟิลิปปินส์ว่าประเทศไทยดำเนินการขัดต่อกฎหมายขององค์การการค้าโลกเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายศุลกากรซึ่งรวมถึงการฟ้องคดีอาญากับบริษัทผู้นำเข้าบุหรี่ ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด (PMTL) ในข้อหาสำแดงราคาบุหรี่นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซียระหว่างปี 2545-2546 ต่ำกว่าความเป็นจริง พร้อมระบุให้ประเทศไทยต้องปฏิบัติตามคำตัดสินก่อนหน้านี้ของ WTO ในวันเดียวกัน นายราโมน โลเปซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์เรียกร้องมายังประเทศไทยทวงถามความก้าวหน้าในการแก้ไขนโยบายและแนวทางดำเนินการตามคำสั่งของ WTO และขอให้มีการถอนฟ้องคดีอาญาซึ่งมีฐานมาจากมาตรการที่ขัดต่อคำสั่ง WTO “ข้อพิพาทในองค์การการค้าโลกคดีนี้กินระยะเวลามากว่าสิบปีแล้ว ประเทศไทยแพ้ทั้งสามคดี และแพ้ในชั้นอุทธรณ์ด้วย ถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องยอมรับคำตัดสินเพื่อแสดงความเป็นผู้นำของประเทศไทยในองค์การการค้าโลกและในอาเซียน” ประเทศฟิลิปปินส์เริ่มกระบวนการระงับข้อพิพาทในคดีนี้ตั้งแต่ปี 2551 เนื่องจากประเทศไทยยังคงกล่าวหาอย่างต่อเนื่องว่ามีการสำแดงราคาศุลกากรสำหรับบุหรี่ต่ำอยู่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการกำหนดราคาที่ได้มีการตัดสินแล้วว่าไม่ชอบด้วยกฎขององค์การการค้าโลก ทั้งนี้ มาตรการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวได้ส่งผลให้มีการฟ้องคดีอาญาและอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานอีกหลายรายของผู้นำเข้าในประเทศไทย ในขณะนี้ประเทศไทยแพ้แล้วสามคดี ดังนี้ ในคดีหลัก (Original Proceeding) คณะผู้พิจารณาขององค์การการค้าโลกและองค์กรอุทธรณ์ได้มีคำตัดสินในปี 2553 ว่ามาตรการในการประเมินราคาศุลกากรของไทยขัดต่อความตกลงว่าด้วยการประเมินราคาศุลกากรและกฎขององค์การการค้าโลก หลังจากที่มีคำตัดสินดังกล่าว ประเทศไทยได้มีมาตรการใหม่ในการประเมินราคาศุลกากรต่อบุหรี่ของฟิลิปปินส์ที่ขัดต่อองค์การการค้าโลก โดยการฟ้อง PMTL เป็นคดีอาญาโดยกล่าวหาว่ามีการสำแดงราคาต่ำ ประเทศฟิลิปปินส์ได้ดำเนินการฟ้องคดีต่อองค์การการค้าโลกในการบังคับให้มีการปฏิบัติตามคำตัดสิน (Compliance Proceeding) เป็นคดีแรก และในเดือนพฤศจิกายน 2561 คณะผู้พิจารณาขององฺค์การการค้าโลกก็ได้มีคำวินิจฉัยว่ามาตรการใหม่ในการการประเมินราคาศุลกากร และการฟ้องคดีอาญาคดีแรกดังกล่าวขัดต่อความตกลงว่าด้วยการประเมินราคาศุลกากร ในระหว่างการพิจารณาคดีดังกล่าว ประเทศไทยก็ได้ดำเนินการฟ้องคดีอาญาเป็นคดีที่สอง บังคับให้ประเทศฟิลิปปินส์ต้องเริ่มกระบวนการฟ้องประเทศไทยให้ปฏิบัติตามคำตัดสินเป็นครั้งที่สอง โดยล่าสุด คณะผู้พิจารณาขององค์การการค้าโลกได้มีคำตัดสินเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 ว่าการฟ้องคดีอาญาคดีที่สองนี้ก็ขัดต่อความตกลงว่าด้วยการประเมินราคาศุลกากรเช่นกัน “ประเทศไทยถือเป็นผู้ให้การสนับสนุนรายสำคัญของระบบการค้าพหุภาคีขององค์การการค้าโลก และยังเป็นประธานคณะมนตรีใหญ่ขององค์การการค้าโลกในขณะนี้อีกด้วย นอกจากนี้ ประเทศไทยก็เพิ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนปี 2019 ดังนั้น การยอมรับคำตัดสินของคณะผู้พิจารณาในคดีนี้จะเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบและความเป็นผู้นำของประเทศไทยในองค์การการค้าโลกและในอาเซียน” นายราโมน โลเปซ กล่าวสรุป ที่มา https://www.dti.gov.ph/media/latest-news/13007-wto-panel-report-in-thail...