วันที่ 14 ก.ค.นายวิมล ไทรนิ่มนวล นีกเขียนชื่อดัง เขียนบทความเรื่อง 'ดราม่า-ประชาธิปไตย' ผ่านเพจเฟซบุ๊กระบุว่า...“ดราม่า – ประชาธิปไตย” ผมได้ยินเสียงก่นด่ามาเกือบตลอดชีวิต ในช่วงที่เป็นเด็กอยู่ที่บ้านเกิดเมืองนอนนั้นได้ยินน้อยหน่อย ส่วนมากก็เป็นเด็กๆที่ทะเลาะกัน พอครอบครัวสิ้นเนื้อประดาตัวจนต้องอพยพเข้ามาหากินอยู่ในสลัมห้วยขวาง(ยุคนั้น) ก็ได้ยินเสียงก่นด่ามากขึ้น ส่วนมากก็เป็นพวกแม่ค้าในตลาดเปรมฤทัย ที่พ่อผมปลูกกระต๊อบอยู่ในบึงน้ำครำห่างแค่ 50 เมตร เมื่อตลาดเปรมฤทัยสร้างเสร็จก็มีลิเก “คณะสมศักดิ์ ภักดี” มาแสดงทั้งกลางวันกลางคืน เพื่อเรียกคนเข้าตลาด ตอนดึกเมื่อลิเกเลิกแสดงแล้ว โลกจะเงียบสงบมาก ถ้าไม่มีเสียงพวก “แม่ยก” แย่งชิงตัวพระเอกคือคุณสมศักดิ์ ภักดี และก่นด่ากันจนเสียงสะท้อนก้องได้ยินชัดเจน ผมสะดุ้งตื่นแทบทุกคืน เพราะโรงลิเกตั้งห่างจากบ้านแค่ซอยลูกรังคั่น ประมาณ 30 เมตร ลิเกคณะนี้แสดงอยู่มากกว่าหนึ่งปี และแสดงทุกวันทุกคืน ผมจึงได้ยินเสียงก่นด่าตลอดช่วงเวลาอันยาวนานนั้น พร้อมกับพระเอกลิเกก็ถูกชาวบ้านเปลี่ยนชื่อเป็น “สมศักดิ์ ไม่พักเลย” ด้วย ครอบครัวผมอาศัยอยู่ที่นั่นประมาณ 7 ปี พ่อก็รื้อถอนกระต๊อบอันเป็นเสมือนบ้านน็อกดาวน์ไปปลูกอีกที่หนึ่ง ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่เดิม พอผมได้งานทำในวัย 20 ปี ก็ให้พ่อแม่ย้ายไปอยู่ที่ประจวบคีรีขันธ์ ที่พี่สาวอาศัยอยู่ก่อนมานานแล้ว ผมห่างจากเสียงก่นด่ามานานมาก จนกระทั่งมาถึงยุคแบ่งฝ่ายทางการเมืองและบรรดาแม่ยกเชียร์พระเอกฝ่ายตน ตั้งแต่ยุคที่คุณทักษิณปกครองประเทศจนมาถึงทุกวันนี้ การก่นด่าไม่ได้มาทางเสียง แต่มาทางตัวหนังสือที่เห็นอยู่คลาคล่ำในโลกออนไลน์ จนผมคิดว่าถ้าจิตเราเป็นฮาร์ดดิสก์ สิ่งที่มันบันทึกไว้คงอัดแน่นด้วยคำก่นด่าสารพัดมากกว่าข้อความที่แสดงถึงวุฒิภาวะ สติปัญญา หรือสิ่งสวยงามต่างๆ ผมก็เคยด่า แต่ก็ด่าอย่างประชดประชันในข้อเขียน ไม่เคยด่าใครเป็นสัตว์เลื้อยคลายสารพัดชนิด เพราะนั่นไม่ใช่เพียง “การกดขี่อัตลักษณ์” เท่านั้น แต่มันเป็นการเหยีดหยามทำลายความเป็นมนุษย์...ถ้าทำกันเป็นขบวนการ และมีเจตนาเช่นนั้น มันแตกต่างจากการก่นด่ากันทั่วไปแม้จะใช้คำเดียวกัน ทุกวันนี้ผมก็โดนด่าอยู่เสมอมา หลายปีก่อนก็ขุ่นเคือง แต่เดี๋ยวเดียว ต่อมาก็เฉยชา ทุกวันนี้กลับรู้สึกขอบคุณคนด่า...ที่เป็นเสมือนผู้คอยย้ำเตือนว่า “ผมยังไม่ได้เป็นมนุษย์” ที่แปลว่าสัตว์ประเสริฐดีพอ ยังเป็นเดรัจฉานและโง่งมดักดานอยู่ในโลกดึกดำบรรพ์เสมอมา และผมพยายามจะสร้างชีวิตที่เหลือเวลาอีกไม่มากนักให้ได้เป็นมนุษย์ขึ้นมาบ้างหรืออย่างน้อยก็พยายามจะไม่ให้ตกต่ำจนกลายเป็นสัตว์นรกในร่างคน ผมยังจะเขียนเรื่องการเมืองต่อไป ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งในสังคมประเทศนี้ เพื่อบอกว่าผมมีความรู้สึกนึกคิดอะไรกับสิ่งที่เรียกว่าการเมือง รวมทั้งเรื่องอื่นๆด้วยและยอมรับไว้เลยว่า ความคิดเห็นของผมไม่ได้ถูกแท้ เพราะมันก็แค่ความคิดเห็น ใครอยากจะก่นด่าก็ตามอัชฌาสัยเพราะผมรู้ดีว่ากำลังอยู่ในยุคสมัยของ “นักประชาธิปไตยที่ห้ามใครเห็นต่าง”.