วันที่ 13 ก.ค.นายธันวา ไกรฤกษ์ ผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เพจเฟซบุ๊กระบุว่า...ธนาธร & ช่อ เยือนยุโรป ..ทำลายชาติหรือสร้างสรรค์? ผมเฝ้าติดตามข่าวการเดินสายพบปะผู้นำชาติต่างๆในยุโรปของคุณคุณธนาธรและคุณช่ออย่างใกล้ชิด และมีความกังวลว่าการเดินสายครั้งนี้ไปเพื่อทำลายหรือสร้างสรรค์กันแน่ ซึ่งที่ผ่านมามีความพยายามจากรัฐบาลไทยในการฟื้นความสัมพันธ์ด้านสิทธิประโยชน์ทางการค้า หรือ FTA ระหว่างไทยและยุโรปมาโดยตลอด จนได้รับความเชื่อมั่นจากหลายประเทศ ถึงความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีของสถานการณ์การเมือง แต่ปรากฏว่า ข่าวหลายสำนักกลับรายงานว่าคุณธนาธรและคุณช่อ ได้กระทำการสวนทางความพยายามดังกล่าว! โดยหนึ่งในผู้ที่พบปะกับคุณธนาธรคือ นายอลิน สมิธ สมาชิกรัฐสภายุโรป ได้ออกมายืนยันว่า สหภาพยุโรปจะนำเรื่องความชอบธรรมและเสถียรภาพของรัฐบาลไทยหลังเลือกตั้ง รวมถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนมาพิจารณา ก่อนที่จะเดินหน้าเจรจาเขตการค้าเสรีกับไทย เหตุเพราะหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กับนายสมิธ ได้พูดคุยกันถึงผลการเลือกตั้งในไทย และรายงานความผิดปกติเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง! นอกจากนี้ นางลอทเทอร์ ลิชท์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำยุโรป ยังออกมาแสดงความคิดเห็นหลังได้พบปะกับนายธนาธรว่า สิ่งสำคัญที่รัฐสภายุโรปต้องตระหนักก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นในไทยไม่ใช่การกลับคืนสู่ประชาธิปไตย และไม่สามารถยอมรับได้ คำถามมีอยู่ว่า หากการเจรจาความร่วมมือทางการค้านี้ต้องหยุดชะงักต่อไป ใครเป็นคนที่เสียประโยชน์? . ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบคือประชาชน และไม่ได้กระทบเพียงแค่ภาคธุรกิจใหญ่เท่านั้น ยังส่งผลกระทบถึงผู้ประกอบการรายย่อย และกลุ่มคนรากหญ้าที่มีส่วนในการกระบวนการผลิตสินค้าต่างๆทั้งระบบ ถ้าคุณธนาธรและคุณช่อมีเจตนาที่ดีในการเดินสายครั้งนี้ ทำไมผลที่ได้จึงดูเลวร้ายต่อประเทศชาติ ทำไมจึงไม่ใช้สายสัมพันธ์ที่มีอยู่เดินสายผลักดัน FTA ให้สำเร็จเพื่อประโยชน์ของประชาชน? ปล.อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ ทำไมคุณช่อไม่ใช้โอกาสในการเดินสายตั้งหลายประเทศ ส่งเสริมอัตลักษณ์ของชุดไทยเหมือนที่กล่าวอ้างในสภา #ผลของการกระทำส่อถึงเจตนา #อย่าเอาผลประโยชน์ส่วนตนมาอยู่เหนือผลประโยชน์ของคนทั้งชาติ