โจ๋เลือดร้อน ยกพวกตะลุมบอนกลางงานคอน เสิร์ตแห่เทียนเข้าพรรษาประจำปี ถูกเหล็กขูดชาร์ปและมีดาบฟันเจ็บ 3 ราย มีบ้านเรือนถูกปาสิ่งของใส่กระจกแตกเสียหายหลายหลัง ตร.ยึดขูดชาร์ปยาวแหลมตกในที่เกิดเหตุ 1 เล่ม พร้อมควบคุมตัววัยรุ่นต้องสงสัยไว้สอบปากคำ วันนี้ (13 ก.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นชายประมาณ 30 คน ที่เข้าไปเที่ยวชมคอนเสิร์ต ในงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ประจำปี ที่จัดขึ้นบริเวณหอนาฬิกาวงเวียน บขส.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ยกพวกตะลุมบอนกันจนเกิดเหตุความวุ่นวาย สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับผู้ที่ไปเที่ยวงาน ต่างพากันวิ่งหนีเอาตัวรอดชุลมุนเพราะกลัวจะถูกลูกหลง จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บ 3 ราย คือ นายเรืองอำนาจ ช่างพะเนาว์ อายุ 20 ปี ถูกของมีคมแทงบริเวณไต้ราวนมด้านขวา และแขนข้างซ้าย อาการสาหัส, นายอาทิตย์ หรืออาร์ม ปิงหมื่น อายุ23 ปี ถูกฟันที่แขน และนายชัยณรงค์ เรืองนางรอง อายุ 24 ปี ถูกรุมต่อยและฟันกลางหลัง ซึ่งขณะนี้ผู้บาดเจ็บถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ หลังได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง พร้อมหน่วยกู้ภัยรวมใจปู่อินทร์นางรอง ก็ได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเหล็กขูดชาร์ป ปลายแหลมยาว 1 เล่ม ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่กลุ่มวัยรุ่นใช้ก่อเหตุแทงกัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และตรวจสอบหาเจ้าของ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังพบบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณสถานที่จัดงาน ถูกสิ่งของปาใส่จนกระจกแตกเสียหายหลายหลัง และพบเศษขวด แก้ว กระจายเกลื่อน จากการสอบถาม เพื่อนผู้บาดเจ็บที่มาด้วยกัน เล่าว่า ตนเองและเพื่อนได้รวมตัวกันประมาณ 30 คน เพื่อมาเที่ยวงานและชมคอนเสิร์ตในงานดังกล่าว ก่อนจบงานตนเองก็กำลังจะเตรียมกลับบ้าน ด้วยจังหวะชุลมุน คนเยอะและมืดมากตนเองไม่รู้ว่าใครเป็นคนก่อเหตุ แต่ยืนยันว่าตนและกลุ่มเพื่อนไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน กระทั่งเหตุชุลมุนจบลงจึงรู้ว่าเพื่อนที่มาด้วยกันถูกแทงจนบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งล่าสุดทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้สอบสวนหลายราย แต่ยังไม่ได้ดำเนินคดีหรือแจ้งข้อหา เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานว่าเป็นผู้ที่ใช้อาวุธแทงวัยรุ่นในงานบาดเจ็บหรือไม่ ส่วนสาเหตุของการยกพวกตีกันครั้งนี้ก็ยังไม่ทราบว่าชนวนเหตุเกิดจากอะไร อาจจะเกิดจากความคึกคะนอง มึนเมา หรือเขม่นกันมาก่อน ก็ต้องสอบสวนอีกครั้ง