ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (12ก.ค.2562) บรรยากาศการซื้อขายต่างจากในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยวันนี้นักลงทุนเทขายออกมาอย่างมาก โดยเฉพาะนักลงทุนบัญชีหลักทรัพย์ และนักลงทุนในประเทศ มีเพียงนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนต่างประเทศ ที่ยังคงเข้าซื้อหลังทรัพย์เพื่อทำกำไร หลังจากที่สหรัฐฯประกาศตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานโดยรวมออกมาแข็งแรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือนนี้ อีกทั้งตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมาก็ปรับตัวขึ้นมากเช่นเดียวกับหุ้นประเทศไทย ประกอบกับมูลค่าของตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันที่ยังอยู่ในกลุ่มที่ค่อนข้างแพง ขณะที่ปัจจัยในประเทศก็ยังไม่มีอะไรหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเพื่อเกร็งกำไร โดยเฉพาะความกังวลต่อการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการเฝ้าระวังเงินทุนไหลเข้าระยะสั้น เพราะเกรงว่าเงินบาทแข็งค่าเร็วจะกระทบเศรษฐกิจภาพรวม ซึ่งตลาดฯ มองว่ามาตรการดังกล่าวอาจกดดันกระแส Fund Flow ต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยในเรื่องการแถลงนโยบายรัฐบาลที่ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน โดยเฉพาะแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่แต่ละพรรคการเมืองที่ใช้ในช่วงหาเสียง จะสามารถทำได้หรือไม่ ส่งผลให้ตลาดฯปิดที่ระดับ 1,731.59 จุด ลดลง 8.86 จุด มูลค่าการซื้อขาย 70,717.19 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด5อันดับ ได้แก่ 1. BEM ปิดที่ 10.60 บาท ลดลง 0.40 บาท 2. TOP ปิดที่ 72.50 บาทเพิ่มขึ้น 1.50 บาท 3. TRUE ปิดที่ 6.15บาท คงที่ 4. PTT ปิดที่ 47.75 บาท ลดลง 0.50 บาท 5.PTTGC ปิดที่ 62.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท