“2 เดือน อันตรายไข้เลือดออก” ...นายแพทย์ สสจ.หนองคาย เตือนเฝ้าระวังไข้เลือดออก ประชาชนต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ร่วมกันตัดตอนยุงลาย นายแพทย์วิศณุ วิทยาบำรุง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในจังหวัดหนองคายว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน จังหวัดหนองคายมีผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไข้เลือดออกมีจำนวน 265 คน ถือว่าเป็นสถิติที่มีผู้ติดเชื้อสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 2 เท่า แต่ยังไม่มีจำนวนผู้เสียชีวิต ถือว่าปีนี้เป็นปีที่ระบาดมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ใช่เฉพาะที่จังหวัดหนองคายจังหวัดเดียวเท่านั้น จังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทยโดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ในเขตสาธารณสุขที่ 8 จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี, สกลนคร, นครพนม, เลย, หนองบัวลำภู, หนองคาย และจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งก็มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแทบทุกจังหวัด พร้อมกันถือว่าเป็นการระบาดค่อนข้างเยอะ แต่ก็ถือว่าจังหวัดหนองคายยังระบาดอยู่ในระดับ กลางๆ หรือลำดับที่ 47 ของประเทศไทย ทั้งนี้ หน่วยงานสาธารณสุขทั้งระดับจังหวัดและอำเภอ ต่างก็ได้เตรียมการในการป้องกัน ควบคุม และเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออกมาตั้งแต่ต้นปีแล้วเช่นเดียวกัน มีการสื่อสารให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้ขอความร่วมมือกับประชาชน ในการที่จะช่วยกันรณรงค์ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการระบาด (เดือน ก.ค.- ส.ค.) เราก็จะมีความเข้มข้นในการที่จะให้ประชาชนออกมาช่วยกันรณรงค์ในการควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยใช้มาตรการที่สำคัญ ในการควบคุมโรคไข้เลือดออก ได้แก่ การเก็บบ้าน เก็บน้ำ เก็บขยะ ดูแลสิ่งแวดล้อมภายในบ้าน จัดบ้านให้โปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก แสงสว่างส่องถึง ไม่มีมุมอับ ไม่ให้ยุงไปกบดานหลบซ่อน, เก็บภาชนะต่างๆ ที่ใช้บรรจุน้ำ ถังน้ำกินน้ำใช้ให้ปลอดจากสถานะที่จะให้ยุงเข้าไปไข่ทิ้งไว้ ทำการปิดฝาโอ่ง ใช้ตาข่ายคลุมฝาภาชนะ ดูแลเรื่องจานรองขาตู้กับข้าว น้ำในแจกันที่ใช้ไหว้พระ น้ำในกล่องในที่อับ หรือที่ระบายน้ำต่างๆ และการเก็บขยะภายในบ้านไม่ให้มีภาชนะแตกหัก ที่ทำให้มีน้ำขังกลายเป็นที่อาศัยเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ก็เป็นมาตรการในการขอความร่วมมือกับประชาชน โดยปกติแล้วการแพร่ระบาดของไข้เลือดออก จะมีการแพร่ระบาดปีเว้นปี หรือปีเว้น 2 ปีประมาณนั้น ซึ่งจังหวัดหนองคายเองก็เป็นเช่นเดียวกัน สถานการณ์ของโรคก็เป็นวาระการระบาดทั่วไปและก็ไม่ใช่เฉพาะที่จังหวัดหนองคาย เป็นการระบาดทั่วประเทศ เมื่อเรารู้แล้วก็จะต้องเตรียมการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาด แต่ถึงอย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้เป็นจิตสำนึกของประชาชน เป็นความรับผิดชอบต่อตัวเองและส่วนรวม เพราะถ้าหากปล่อยให้บ้านเรือนของตนเองนั้นมียุงอาศัย มีไข่มีลูกน้ำ และมีการเพาะพันธุ์จำนวนมาก ยุงก็จะไม่กัดเฉพาะบ้านตัวเอง มันก็จะบินไปกัดคนที่บ้านหลังอื่นซึ่งอยู่ถัดไป โดยยุงแต่ละตัวสามารถบินไปได้ไกลระยะทางราว 100 เมตร เพราะฉะนั้นบ้านที่อยู่รอบบ้านของเรา หรือ 100 เมตรที่อยู่ถัดไปก็อาจจะมีโอกาสถูกยุงจากบ้านของเราไปกัดเขาได้ด้วยเช่นเดียวกัน จึงเป็นจิตสำนึกที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมที่ประชาชนควรจะตระหนักและช่วยกันที่จะต้องทั้งป้องกันตัวเองและป้องกันเพื่อนบ้าน จึงอยากจะฝากเรื่องนี้ไปยังพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่มีส่วนสำคัญว่า เราจะช่วยกันอย่างไรที่จะทำให้บ้านเรือนของเราสะอาดไม่เป็นที่เพาะพันธุ์ยุง โดยจะมีภาคีเครือข่ายสาธารณสุข, อสม. ในการสนับสนุนให้ความรู้ ช่วยดำเนินการในการจัดการเวลามีผู้ป่วยเกิดขึ้น.