หมายเหตุ : “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษ “สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์” ถึงบทบาทการทำหน้าที่ติดตาม และตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน โดยต้องยอมรับว่านับตั้งแต่เปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ผ่านไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ แต่ความเข้มข้นในเวทีสภาฯ มีขึ้นอย่างต่อเนื่อง - บรรยากาศการเมืองหลังเลือกตั้งจนถึงวันนี้ เป็นอย่างไรบ้าง มองว่าเป็นการเมืองที่ไม่ปกติ จะสังเกตเห็นว่ากว่าจะมีการประกาศผลการเลือกตั้ง หรือรับรองการเป็นส.ส.ใช้เวลาเป็นเดือน ๆ เมื่อรับรองแล้ว ผลของการเลือกตั้งก็บอกอะไรได้หลายอย่าง จํานวนพรรคการเมืองที่เข้าสู่สภาด้วยกลไก และวิธีการที่ใช้คิดคำนวณ ทำให้มีพรรคการเมืองทั้งพรรคเล็กพรรคน้อยเข้ามาเยอะมาก เรื่องนี้เองที่สะท้อนให้เห็นว่าเขามีเจตนาที่จะเขียนรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้การรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลก็มีปัญหา ธรรมเนียมพรรคการเมืองในอดีต พรรคที่มีเสียงข้างมากที่สุดจะได้สิทธิ์ในการรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ปัจจุบันธรรมเนียมนี้ถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิงจากการเลือกตั้ง และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ พรรคที่มีเสียงอันดับหนึ่งไม่สามารถรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ เนื่องจากกลไกการคิดคำนวณ และกลไกของการจัดการพรรคการเมืองที่ทำให้มาอยู่เป็นกลุ่มเป็นก้อนด้วยกระบวนการวิธีการต่างๆ ที่เสมือนว่าเขาจำเป็นต้องไป จึงทำให้ภาพของการรวมเสียงไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สุดท้ายพรรคการเมืองที่มีเสียงรองลงไปก็สามารถรวบรวมเสียงได้ สิ่งเหล่านี้คือผลพวงจากกติกาของรัฐธรรมนูญ ดังนั้นภาพการเมืองแบบนี้ ทำให้สถาบันการเมืองอ่อนแอ นักการเมืองเป็นง่อย สภาเป็นง่อย รัฐบาลก็เป็นง่อยเพราะมีเสียงปริ่มน้ำ ทั้งหมดคือภาพที่เราเห็นได้ชัด บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมายของรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง การเข้าสู่อำนาจทั้งหมดทำให้การเมืองอ่อนแอ ทำให้รัฐบาลที่จะมาบริหารประเทศชาติอ่อนแอ ดังนั้นการจะเป็นที่พึ่งที่หวัง หรือโอกาสที่จะแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนเป็นไปด้วยความยากลำบาก ขาดความเชื่อมั่นในสายตาของต่างประเทศ ขอถามว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเอาความเชื่อมั่นมาจากไหน ส.ส.เอง ก็ยังไม่ทราบว่าจะอยู่หรือไป จะยุบสภาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หรือแม้กระทั่งรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นมาจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ก็ยังไม่ทราบได้ เพราะเสียงมันปริ่มน้ำมาก แต่ฝั่งรัฐบาลเองก็มีความมั่นใจว่าจะอยู่ได้ เพราะมีวิธีการจัดการ มีกระบวนการต่างๆ ขึ้นมารองรับทำให้เขามั่นใจว่าจะอยู่ได้ -โอกาสที่รัฐบาลจะอยู่ยาวมีสูงหรือไม่ เพราะสุดท้ายการยุบสภาเป็นสิ่งที่ส.ส.ยังไม่พร้อม เพราะเพิ่งผ่านการเลือกตั้งกันมา ต้องยอมรับว่าไม่มีส.ส.คนไหนอยากให้มีการยุบสภา ไม่มีใครอยากให้มีการเลือกตั้งกันทุกปี ส่วนรัฐบาลจะอยู่ยาวหรือไม่นั้น หากเป็นการเมืองแบบปกติ ตอบได้เลยว่ารัฐบาลอยู่ได้ไม่ยาว การอยู่ได้ไม่ยาวไม่ได้หมายความว่าต้องยุบสภา แต่อาจมีการเปลี่ยนรัฐบาลหรือเปลี่ยนขั้วรัฐบาลได้ ซึ่งบ่อยครั้งในเมืองไทยก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เช่น สมัยรัฐบาลเพื่อไทย ก็มีการเปลี่ยนเป็นประชาธิปัตย์โดยไม่มีการยุบสภา นั่นหมายความว่าเสถียรภาพรัฐบาล ถ้าอยู่ในภาวะปกติยากที่จะมีเสถียรภาพ และเขาคงไม่ทำกัน ไม่ตั้งรัฐบาลแบบนี้ แต่เหตุที่เขามั่นใจว่าจะอยู่ได้ยาวนั้น มันเป็นภาวะการเมืองที่ไม่ปกติ ภายใต้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่มีบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญเข้ามาช่วยค้ำ เช่น ให้ส.ว.มาเลือกนายกฯ ได้ ให้ส.ว.มาช่วยเกี่ยวกับกฎหมายการปฏิรูปประเทศได้ เอาส.ว.มาช่วยติดตามเสนอแนะเรื่องการปฏิรูป เป็นต้น กติกาเช่นนี้ทำให้เขามั่นใจว่าเขาจะอยู่ได้นาน ประกอบกับองคาพยพในการตรวจสอบทั้งหมดเขามั่นใจว่ามันเกิดจากกระบวนการที่มาด้วยกัน มาจาก แม่น้ำ 5 สาย - เท่าที่เห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้ มองว่าฝากความหวังเอาไว้ได้บ้างหรือไม่ ครม.ชุดนี้ ยังมีบางส่วนที่เป็นครม.ชุดเดิม ซึ่งเป็นครม.ที่ทำงานกับพล.อ.ประยุทธ์มา 5 ปี ผลงานเป็นที่ประจักษ์อยู่ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเศรษฐกิจปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนที่ยังแก้ไม่ได้ ขณะที่พวกเขามีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เช่น มาตรา 44 เขาไม่สามารถใช้กลไกนี้ไปทำให้การทำนโยบายหรือแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนให้เป็นผลสัมฤทธิ์ได้ นอกจากนี้ครม.ที่เห็นหลายคนมีคุณลักษณะ มีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ หลายคนมีแผลเหวอะหวะ หากให้ตรวจสอบเป็นรายบุคคลไม่รอดทั้งนั้น ดังนั้นความหวังที่จะทำเพื่อบ้านเมือง แค่เห็นชื่อก็หวังไม่ได้แล้ว และยิ่งจะทำนโยบายมา แถลงต่อสภายิ่งหวังไม่ได้อีก เช่น นโยบายที่ตัวเองใช้หาเสียงก็จะไม่หยิบยกขึ้นมาเป็นนโยบายหลัก ในหลายพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคแกนนำ หลายเรื่องที่พูดไว้กับประชาชน แต่เมื่อถึงเวลากลับบอกว่านโยบายนี้อาจจะยังไม่พร้อมที่จะนำมาใช้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นการหาเสียงเพียงอย่างเดียว แต่ไม่มีความรับผิดชอบต่อประชาชน ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล บางพรรคเข้ามาก็อ้างว่าจะนำนโยบายที่เสนอ เพื่อมาแก้ปัญหา เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องนี้ต้องติดตามดูว่าหากพรรคประชาธิปัตย์จริงใจที่จะเข้ามาเพราะอยากแก้รัฐธรรมนูญ ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องพยายามผลักดัน คือต้องผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นนโยบายของรัฐบาลด้วย ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยว่าจะต้องแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ทำได้ สิ่งที่เขาสูญเสียไปก็มีโอกาสที่จะฟื้นขึ้นมา และสามารถความศรัทธาความเชื่อมั่นกลับมาได้ -การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในสภาฯ มองว่าจะมีความยากลำบากหรือไม่ อย่างไร หากถามว่ายากลำบากหรือไม่ มันมีทั้งสองมุม คือมีทั้งมุมที่ยากลำบาก และมุมที่เรามีจุดแข็ง จุดแข็งของเราเป็นฝ่ายค้านที่มีเสียงมากที่สุดในสภา เรามี 246 เสียง ถือว่าเกือบกึ่งหนึ่ง ถ้าย้อนภาพไปในแต่ละช่วงที่ผ่านมา ชุดของเรามีฝ่ายค้านที่มีเสียงเยอะที่สุด และกระบวนการการทำงานของเราก็เกาะเกี่ยวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ทั้ง 7 พรรคจับมือกันทำงานภายใต้ร่มเงาเดียวกัน เราทำงานทั้งในสภาและนอกสภา โดยนอกสภามี คณะกรรมการประสานงานภาคประชาชนที่จะบอกกล่าวหรือรณรงค์ทำงานในภาคประชาชนที่เราตั้งเป้าไว้ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรามองว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่เลวร้ายที่สุด กลไกเข้าสู่อำนาจ กลไกการใช้อำนาจแย่ที่สุด ไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน มีรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับอยู่ในฉบับเดียวกัน ซึ่งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราต้องทำความเข้าใจบอกกล่าวกับพี่น้องประชาชนถึงข้อดีข้อเสียต่างๆ ให้เขาเห็น เพราะหลายคนไปลงประชามติโดยไม่รู้ว่าไส้ในของรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร ไม่เคยรู้ว่าส.ว. 250 คน มาเลือกนายกฯ ได้แต่ก็ลงประชามติไปแล้ว นอกจากนี้เรายังอาศัยกลไกการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนเป็นตัวขับเคลื่อน เช่น เข้าชื่อการเสนอกฎหมาย การยกเลิกตัวกฎหมายที่เกิดจากมาตรา 44 อะไรที่เป็นกฎหมายต้องแก้ด้วยกฎหมาย ส่วนอะไรที่เป็นคำสั่งหรือประกาศก็อาศัยคำสั่งประกาศแก้ได้ “กระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนบนพื้นฐานว่าเป็นประชาธิปไตยอันมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ภายใต้ระบบนิติรัฐ นิติธรรม และประชาชนอยู่ดีกินดี คำว่านิติรัฐ นิติธรรมนั้น เป็นสิ่งที่ต้องย้ำ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ในบทเฉพาะกาลหรือการบังคับใช้กฎหมาย ตามมาตรา 44 คำว่านิติธรรม มันไม่ได้รับการยอมรับ เพราะคำว่านิติธรรมทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย อยู่ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมายที่เสมอภาคเท่าเทียมกัน คือกฎหมายต้องบังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมเสมอภาคกันนี่คือหลักนิติธรรม ไม่ใช่เลือกปฏิบัติ ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องการคือรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยภายใต้หลักนิติธรรม ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพได้รับการปฏิบัติทางกฎหมายที่เสมอภาคเท่าเทียมกัน” อย่างไรก็ตาม พวกเราที่อยู่ในสภาก็นำสิ่งที่นอกสภาส่งเข้ามา มาสู้กันผ่านกระบวนการสภา เราไม่ได้ส่งเสริมเรื่องการเดินบนท้องถนน เราใช้กระบวนการทางสภาในการแก้รัฐธรรมนูญ การทำหน้าที่ในการตรวจสอบติดตามการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนก็เป็นหน้าที่ของสภา นอกสภาก็นำปัญหาหรือความต้องการเข้ามา เพราะฝ่ายค้านไม่เสนอไปที่รัฐมนตรีโดยตรง ดังนั้นจึงต้องอาศัยช่วงสภา - สิ่งที่ฝ่ายค้านอยากให้สังคมมองเราอย่างเข้าใจคืออะไร เพราะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ายังไม่ทันที่รัฐบาลใหม่จะทำงาน ก็เตรียมล้มรัฐบาลกันแล้ว มุมของฝ่ายค้าน การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ระบบรัฐสภามันมีเสียงข้างมาก เสียงข้างน้อย เสียงข้างมากก็ได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็เป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านหน้าที่หลักตามหลักการของประชาธิปไตยจะต้องเป็นผู้ส่งเสียงให้เขาได้เคารพสิทธิของเสียงข้างน้อยให้ได้ เพราะเราสู้หลักเสียงข้างมากไม่ได้อยู่แล้ว หลักประชาธิปไตยนอกจากจะมีหลักของพี่น้องประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ หลักของสิทธิเสรีภาพ หลักความเสมอภาค หลักเสียงข้างมากเคารพเสียงข้างน้อย หลักนิติรัฐนิติธรรมแล้ว เมื่อคุณใช้หลักเสียงข้างมากในการปกครอง คุณก็ต้องเคารพสิทธิ์ของเสียงข้างน้อยในการที่จะตรวจสอบหรือทักท้วงในหลายๆ เรื่องที่เป็นมุมมองที่ต่างกัน และถึงแม้เราจะทักท้วงอย่างไร มันก็ไม่ชนะ เพราะสุดท้ายก็แพ้เสียงข้างมาก ดังนั้นอย่ามองว่าฝ่ายค้านจ้องจะล้มรัฐบาล ไม่มีสภาที่ไหนล้มรัฐบาลได้ ในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมี ยิ่งภาวะปกติยิ่งล้มไม่ได้ เพราะในระบบปกติเขาจะต้องมีเสียงให้มากพอถึงจะเป็นรัฐบาลได้ แต่ผิดกับรัฐบาลชุดนี้ถึงแม้เขาจะมีเสียงปริ่มน้ำแต่เขาก็จะเป็น เพราะเขาเชื่อมั่นในระบบที่ไม่ปกติ หากถามว่าเขาจะล้มเพราะสภาหรือไม่นั้นคงยากมาก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะล้มเพราะสภา จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วมีสมาชิกมายกมือ ไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรีที่เป็นชื่อของตัวเอง มันแทบจะไม่มี ยกเว้นว่ามีปรากฏการณ์ที่เขาจะไม่ร่วมรัฐบาลแล้ว เรื่องนี้เกิดจากเนื้อในของรัฐบาล ไม่ได้เกิดจากฝ่ายค้าน เมื่อคุณแตกกันเอง เช่น พรรคประชาธิปัตย์ดูแล้วนโยบายที่จะผลักดันเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายหลัก แต่คุณไม่เอาด้วยก็เป็นสิ่งที่เขาอาจจะทบทวนในการร่วมรัฐบาล แต่ยืนยันว่าไม่ได้ล้มเพราะฝ่ายค้าน