ทนายความจิตอาสาคู่แผ่นดิน นำ 2 สามีภรรยา ยื่นหนังสือต่อ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร้องขอความเป็นธรรมและให้ตำรวจ สน บางนา เร่งรัดคดีร้องทุกข์เอาผิด รพ บางนา 1 หลังไม่ปฏิบัติตามมาตราฐานสากลว่าด้วยการส่งตัวผู้ป่วย จนทำให้บุตรในครรภ์เสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 ก.ค.62 นายกันตเมธส์ จโนภาส ทนายความจิตอาสาคู่แผ่นดินไทย พร้อมด้วย น.ส.อารยา สมบัติตรา และนายจิรทีปต์ อินทโชติ สามี เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หลังจากที่โรงพยาบาลบางนา 1 ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอื่น จนเป็นเหตุให้บุตรในครรภ์ของ น.ส.อารยา เสียชีวิต น.ส.อารยา และนายจิรทีปต์ กล่าวว่า ได้ฝากครรภ์ที่คลีนิคแห่งหนึ่ง ย่านศรีนครินทร์ แต่มีอาการเจ็บท้อง มีเลือดออก เมื่ออายุครรภ์ได้ 7 เดือน จึงไปรพ.บางนา 1 ซึ่งมีสิทธิ์ประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ บัตรทอง โดยแพทย์อ้างว่า ทางโรงพยาบาลไม่มีแผนกทารกแรกเกิดวิกฤต จึงแนะนำให้ไปโรงพยาบาลของรัฐที่มีเครื่องมือพร้อม แต่ไม่มีใบส่งตัวและรถพยาบาลตามคำร้องขอ โดยให้เดินทางไปเอง ในฐานะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น เมื่อเดินทางไปถึงโรงพยาบาลแห่งที่ 2 ตนเองไม่ได้แจ้งให้ทราบว่า ได้ไปขอรับการรักษาที่ รพ.บางนามาแล้ว เพราะ รพ.บางนา 1 แจ้งว่า หากบอกไป จะไม่ได้รับสิทธิ์รักษากรณีฉุกเฉิน และแนะนำให้ไปที่รพ.เดิม เพราะมีสิทธิ์รักษาอยู่ สุดท้ายจึงเดินทางไป รพ.แห่งที่ 3 ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินทางไป 2-3 ชั่วโมง โดยทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแจ้งว่า ใช้สิทธิ์ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ไม่ได้ ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง เพราะไม่มีหนังสือส่งตัว จึงจำใจกลับไปรับบริการที่โรงพยาบาลบางนา และทำการผ่าคลอดเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 60 แต่ทารกเสียชีวิต จากนั้นแพทย์นำเข้าห้องผ่าตัด และทำหมันให้ โดยอ้างว่า ไม่สามารถมีบุตรได้อีก ต่อมาวันที่ 16 ก.ค.60 เดินทางเข้าร้องทุกข์ ที่ สน. บางนา เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของโรงพยาบาลบางนา จนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว แต่คดียังไม่คืบหน้า ทั้งที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และลงความเห็นว่าโรงพยาบาลบางนา ต้องจัดบุคลากรและส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน ด้วยวิธีการที่เหมาะสม และให้เกิดความปลอดภัยต่อการส่งต่อตัวผู้ป่วย ดังนั้นคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข จึงเห็นว่า การที่ รพ.บางนา 1 ให้ผู้ป่วยเดินทางเข้ารับการรักษาที่ รพ.อื่น ด้วยตนเอง จึงเป็นการให้บริการที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการส่งต่อผู้ป่วย ของกระทรวงสาธารณสุข และพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงได้มีคำสั่งเตือนไปยัง รพ.บางนา 1 แล้ว แต่ทางตำรวจไม่ได้มีการเรียกไปสอบปากคำ จึงตัดสินใจร้องเรียนต่อผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้เร่งรัดคดีให้ได้รับความเป็นธรรม