"4รมต.เกษตรฯ"โทรสายตรงถึง "ปลัดเกษตรฯ" เตรียมห้องทำงานรองรับแล้ว คาดเข้ากระทรวงสัปดาห์หน้า จ่อโยกย้ายครั้งใหญ่ เฟ้นหามือทำงาน เร่งแก้ปัญหาปากท้องเกษตรกรทันที เกลี่ยงาน "3รมช." แบ่งเค้กคุมงบกว่า แสนล้าน วันนี้ (11 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ล่าสุดได้มีการเตรียมห้องทำงานให้กับรัฐมนตรีทั้ง 4 คนแล้วโดยมีห้องไว้แล้วไม่ต้องทำใหม่ เพราะเคยมีรัฐมนตรี 4 คนมาก่อน โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ , นายธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ , น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ และนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯ ได้ประสานมาถึงปลัดกระทรวงเกษตรฯโดยตรง ภายหลังจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้รับการโปรดเกล้าลงมาแล้ว พร้อมกับได้พูดคุยถึงนโยบายกระทรวงเกษตรฯเบื้องต้น โดยจะมีการขับเคลื่อนตามนโยบายศาสตร์พระราชาเป็นหัวใจหลัก ในส่วนนายเฉลิมชัย จะดูแล 4 หน่วยงานหลัก คือ กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) กรมฝนหลวงและการบินเกษตร สำหรับอีก 3 รมช.เกษตรฯ นายเฉลิมชัย จะประชุมหารือกับ 3 รมช.อีกครั้งว่าจะมีการแบ่งงานกันอย่างไร คาดว่าจะเข้ากระทรวงและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง หลังจากถวายสัตย์ปฏิญาณในสัปดาห์หน้า รายงานข่าว ระบุว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกที่รัฐมนตรีเกษตรฯทั้ง 4 คน ได้เตรียมหารือกันและจะดำเนินการเร็วที่สุด คือ การปรับเปลี่ยนบุคลากรของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อให้งานนโยบายที่เน้นแก้ปัญหาปากท้อง เดินหน้าไปได้รวดเร็วตามที่หาเสียงไว้ รวมทั้งจะเร่งสร้างคะแนนนิยมจากประชาชนให้ได้โดยเร็ว รัฐบาลนี้จึงต้องใช้กลไกของกระทรวงเกษตรฯที่นำนโยบายลงสู่ระดับล่างได้ทันทีและทั่วถึง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้ได้ผลดีชัดเจน นอกจากนี้ในเดือนกันยายนนี้ มีข้าราชการระดับสูงเกษียณอายุ ในระดับ 10 มี 9 ตำแหน่ง คือ ผู้ตรวจราชการ 2 ตำแหน่ง นางสาววราภรณ์ พรหมพจน์ และนายอานัติ วิเศษรจนา , รองปลัดกระทรวง 3 ตำแหน่ง คือ นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน นายสุรเดช เตียวตระกูล นายสุรจิตต์ อินทรชิต , อธิบดี 4 ตำแหน่ง คือ นายประสงค์ ประไพตระกูล อธิบดีกรมการข้าว นางสาวศิริพร บุญชู อธิบดีกรมหม่อนไหม นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง นางสาวจริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) ทั้งนี้ จะมีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายในตำแหน่งต่างๆที่สำคัญด้วยในสัปดาห์แรกช่วงวันที่ 1 สิงหาคม นี้ ต้องเสนอรายชื่อมือทำงาน ที่จะโยกย้ายไปนั่งตำแหน่งแล้ว ซึ่งพรรคที่มีข้อมูลของบุคคลากรกระทรวงเกษตรฯในมือมากที่สุด คือ พรรคชาติไทยพัฒนา เพราะคุมกระทรวงนี้มานาน ในส่วนงบประมาณที่กระทรวงเกษตรฯ ในแต่ละปีได้รับการจัดสรรงบประมาณกว่า 1 แสนล้านบาท มีหน่วยงานในกำกับดูแลระดับกรม 15 หน่วยงาน และองค์กรมหาชนอีก 3 หน่วยงาน พันธกิจหลักคือ พัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้มีความมั่นคง พัฒนาเศรษฐกิจการเกษตรให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพตลอดห่วงโซ่อุปทานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและส่งเสริมงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ ทั้งนี้ ปีงบประมาณ 2562 กระทรวงเกษตรฯได้รับการจัดสรร ทั้งสิ้น 108,539.324 ล้านบาท คิดเป็น 3.6%ของงบประมาณรายจ่ายรวม ซึ่งงบประมาณจำนวนดังจะถูกกระจายไปให้หน่วยงานในกำกับดูแลดังนี้ 1.สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ งบประมาณ 1,756.01 ล้านบาท 2.กรมการข้าว 3,138.44 ล้านบาท 3.กรมชลประทาน 65,643.27 ล้านบาท 4.กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 1,354.42 ล้านบาท 5.กรมประมง 4,096.94 ล้านบาท 6.กรมปศุสัตว์ 6,225.69 ล้านบาท 7.กรมฝนหลวงและการบินเกษตร 2,302.03 ล้านบาท 8.กรมพัฒนาที่ดิน 5,723.70 ล้านบาท 9.กรมวิชาการเกษตร 4,136.47 ล้านบาท 10.กรมส่งเสริมการเกษตร 6,340.56 ล้านบาท 11.กรมส่งเสริมสหกรณ์ 3,101.68 ล้านบาท 12.กรมหม่อนไหม 710.14 ล้านบาท 13.สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 1,937.44 ล้านบาท 14.สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ 285.96 ล้านบาท และ 15.สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 644.47 ล้านบาท ส่วนองค์การมหาชน 3 หน่วยงาน จะได้รับการจัดสรรงบดังนี้ 1.สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การ์มหาชน) 546.45 ล้านบาท 2.สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) 198.75 ล้านบาท และ3.สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) 396.80 ล้านบาท และมีรัฐวิสาหกิจอีก 4แห่ง คือการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรรม(อตก.) องค์การสะพานปลา องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อสค.) ยังมีสำนักงานกองทุนฟื้นฟูเพื่อพัฒนาเกษตรกร(กฟก.) สำหรับนายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรฯและนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรฯจะพ้นหน้าที่ในวันที่ครม.ใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว ก็จะเก็บของออกจากกระทรวง