“สมคิด” เชื่อ หลังได้รัฐบาลใหม่ ทุกอย่างจะดีขึ้น มั่นใจดึงความเชื่อมั่นได้ ชี้ เศรษฐกิจโลกแย่ ทุกชาติรับผลกระทบหมด ส่วนไทยต้องประคองตัว พร้อมประสานรมต.ต่างพรรค เน้นกระตุ้นฐานราก ฝาก”อนุทิน”ดันเมกะโปรเจกต์อย่าให้ติดขัด พร้อมดึงนโยบายฝ่ายค้าน ระบุ อัด 4 รมต.ลง ก.เกษตรฯ เหมาะสมแล้ว เพราะเป็นกระทรวงใหญ่ เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับโปรดเกล้าฯเป็นรองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลทางด้านเศรษฐกิจอีกครั้งในรัฐบาลชุดใหม่ว่า ส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นรองนายกฯด้านเศรษฐกิจ เพราะมีรองนายกฯ หลายคน และแต่ละท่านก็จะแบ่งเบากันกำกับดูแลกระทรวงและรายงานตรงต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็จะเป็นการประสานงานกันระหว่างผู้บริหารหลาย ๆ คน ผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถสานงานต่อได้เลย หรือต้องรอนโยบายจากพรรคร่วมรัฐบาลก่อน นายสมคิด กล่าวว่า ไม่มีปัญหาเพราะนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลส่วนใหญ่ก็คล้ายๆ กัน คือพยายามที่จะทำให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็ง มีความสามารถสูงในอนาคต และพยายามช่วยฐานรากให้มากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่อยู่ในนโยบายของทุกพรรค จะต่างกันแค่รายละเอียด ซึ่งขณะนี้ตัวแทนแต่ละพรรคก็หารือกันอยู่แล้ว “ คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะนายกฯก็คนเดิม ดังนั้นความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นมาในช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ก็ควรจะแน่นอนได้แล้ว อย่าไปกังวลมากนัก” เมื่อถามว่า ถือว่ามีความท้าทายหรือไม่กับรัฐบาลใหม่ เพราะดูเหมือนตัวเลขจีดีพี เราก็ถูกหั่นไปด้วย รองนายกฯ กล่าวว่า ตนคิดว่าในภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เราจะโดนคนเดียว ทุกคนก็ลำบากกันไปหมด เพียงแต่เรามาเผชิญกับการเลือกตั้งและมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วงนี้ ซึ่งขณะนี้ก็เรียบร้อยแล้ว ได้รัฐบาลใหม่แล้ว รอถวายสัตย์ปฏิญาณอย่างเดียว ก็คิดว่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าจะคิดว่ามันจะรอดพ้นจากเศรษฐกิจโลกก็คงไม่ไหว ก็ต้องพยายามประคองกันไป ทุกประเทศโดนกันหมด ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าโฉมหน้าครม.ชุดใหม่จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากต่างประเทศหรือนักลงทุนได้ใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ตนคิดว่าอยู่ที่นโยบาย ถ้าทุกคนร่วมกันผลักดันนโยบาย อย่าให้มีอะไรติดขัด ความมั่นใจก็คงเหมือนเดิม“ก็ต้องมั่นใจซิ เราไม่มั่นใจแล้วจะให้ฝรั่งเขามามั่นใจเราได้อย่างไร” เมื่อถามว่าจะใช้เวลาเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้เท่าไหร่ ภาวะเศรษฐกิจเราถึงจะดีขึ้น นายสมคิด กล่าวว่า ก็ครึ่งปีแรกเราอย่าไปคิดอะไรมากมาย เพราะมันว่างมาครึ่งปี แต่ครึ่งปีหลัง ในเมื่อเรารู้ว่าเศรษฐกิจโลกไม่ดี ก็ต้องหันมาเน้นที่ภายในประเทศ โครงการลงทุนต่าง ๆ ก็ต้องอย่าให้ติดขัด การกระตุ้นเศรษฐกิจภายใน โดยเฉพาะฐานราก ทางกระทรวงการคลังเขาเตรียมไว้นานแล้ว รอรัฐมนตรีคนใหม่ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ประคองกันไปได้ เวิร์ลแบงค์เขาประเมินไว้ ที่ 3.5 ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกแบบนี้ก็ถือว่าดีแล้ว แต่ถ้าช่วยกันก็อาจจะดีกว่านี้ก็ได้ ใครจะไปรู้ เมื่อถามว่าภายหลังครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว ทีมเศรษฐกิจจะเดินหน้าเรื่องใดเป็นเรื่องแรก นายสมคิด กล่าวว่า ตนไม่มีทีมเศรษฐกิจ มีแต่พี่ๆ น้องๆ ที่กระจายตามกระทรวงต่างๆ ซึ่งคิดว่าตนสามารถประสานกับน้องๆทุกคนได้ ซึ่งร่วมถึงรัฐมนตรีจากต่างพรรคด้วยเพราะรู้จักกันหมด อย่างนายอนุทิน ชาญวีรกุล ก็เคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่สมัยโน้นแล้ว ก็ฝากไปแล้วว่าให้ช่วยเร่งรัดเรื่องเมกกะโปรเจก อย่าให้สะดุด เมื่อถามว่านโยบายด้านเศรษฐกิจที่จะนำไปแถลงต่อสภา มีนโยบายอะไรที่เด่นๆ บ้าง รองนายกฯ กล่าวว่า แต่ละพรรคกำลังดูกันอยู่ ซึ่งในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ น่าจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอประสานกับพรรคอื่นๆ เพื่อมาคัพเวอร์กัน และนายกฯก็สั่งการแล้วว่า ให้นำนโยบายของฝ่ายค้านมารวมด้วย ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดี ส่วนจะเป็นนโยบายไหนของฝ่ายค้านนั้น ก็ลองดูว่าฝ่ายค้านเขาต้องการอะไร เพราะเท่าที่ดู เขาก็ต้องการช่วยฐานรากเหมือนกัน ถ้ามีอะไรก็แนะนำ เสนอมา เขาจะได้รวบรวมเป็นเรื่องเดียวกัน เมื่อถามว่ารัฐบาลใหม่จะมีอะไรทางด้านเศรษฐกิจที่จะเซอร์ไพร์สประชาชนหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า คงไม่ใช่เซอร์ไพร์ส แต่จะเป็นความพยายามสร้างความเชื่อมั่นและขับเคลื่อนให้เดินหน้าต่อ ไม่อยากให้เสียโอกาส อย่าลืมว่าเราเป็นประธานอาเซียน ที่จริงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้โชว์ตัวเอง แต่ข่าวอาเซียนกลับถูกกลบด้วยข่าวการเมืองซะเกลี้ยงเลย ก็น่าเสียดาย เพราะเมื่อเราเป็นประธานอาเซียนแล้วก็เชื่อว่าเราค่อนข้างโดดเด่นในภูมิภาคนี้ แต่คู่แข่งก็มีเยอะ ถ้าเราอยู่เฉยๆ นักลงทุนก็ไปที่อื่นหมด ก็ต้องทำให้ดีที่สุด ดังนั้นอย่ากังวล เมื่อถามว่าการที่กระทรวงเกษตรฯมีรัฐมนตรีถึง 4 คน แสดงว่ารัฐบาลให้ความสำคัญและต้องการอัดช่วยฐานรากอย่างเต็มที่เลยใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า อย่าลืมว่ากระทรวงเกษตรฯ เป็นกระทรวงใหญ่ รับผิดชอบคนที่เป็นเกษตรกรเกือบทั้งประเทศ