ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2562 พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ ,พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบก.ปคม. ได้อำนวยการสั่งการให้ พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล ผกก.1 บก.ปคม. , พ.ต.ต.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว.กก.1 บก.ปคม. นำกำลังเข้าจับกุม
นายธีรเดช ขจรสุข หรือพระครูสีลธาดาธีรเดช ขจรสุข อายุ 50 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 716/2559 ลงวันที่ 5 ต.ค.2559 ข้อหา "กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำชำเราเด็กอายุเกิน 15 ปีซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน,กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”
กล่าวคือ ช่วง เดือน ก.ค. – ต.ค. 2556 ผู้ต้องหา เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ (ตุ๋ยเด็กชาย) โดยมีพระชื่อดำ เป็นธุระจัดหา หลอกลวงเด็กวัยรุ่นชายในพื้นที่ อายุ 14-16 ปี จะพาไปอยู่ด้วยมีเงินมีทองให้ใช้ แต่แท้จริงแล้ว กลับพาไปให้ ผู้ต้องหา บังคับข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนัก โดยจะอาศัยรีสอร์ท หรือโฮมสเตย์ ในพื้นที่อำเภอแม่ริม เป็นที่ปฏิบัติกามกิจ จนถูก ตำรวจ บช.ภ.5 จับกุมดำเนินคดี ได้ยกก๊วน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผล พบผู้เสียหายเพิ่มอีกหลายราย จึงขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา หากแต่ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ภาคเหนือ ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปคม. สืบทราบว่า กลับมาบวชใหม่อีกครั้ง แล้วหนีลงไปจำวัดที่ภาคใต้ อยู่ที่ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี จึงวางแผนและออกติดตาม จนสามารถจับกุมตัว ได้ที่ วัดสายวารี ต.เสด็จ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี แต่ยังปากแข็งให้การปฏิเสธ จึงเชิญตัวให้พระสังฆาธิการ จับศึก และนำตัวส่งดำเนินคดี ที่ สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายธีรเดช ขจรสุข หรือพระครูสีลธาดาธีรเดช ขจรสุข อายุ 50 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 716/2559 ลงวันที่ 5 ต.ค.2559 ข้อหา "กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำชำเราเด็กอายุเกิน 15 ปีซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน,กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”
กล่าวคือ ช่วง เดือน ก.ค. – ต.ค. 2556 ผู้ต้องหา เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ (ตุ๋ยเด็กชาย) โดยมีพระชื่อดำ เป็นธุระจัดหา หลอกลวงเด็กวัยรุ่นชายในพื้นที่ อายุ 14-16 ปี จะพาไปอยู่ด้วยมีเงินมีทองให้ใช้ แต่แท้จริงแล้ว กลับพาไปให้ ผู้ต้องหา บังคับข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนัก โดยจะอาศัยรีสอร์ท หรือโฮมสเตย์ ในพื้นที่อำเภอแม่ริม เป็นที่ปฏิบัติกามกิจ จนถูก ตำรวจ บช.ภ.5 จับกุมดำเนินคดี ได้ยกก๊วน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผล พบผู้เสียหายเพิ่มอีกหลายราย จึงขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา หากแต่ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ภาคเหนือ ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปคม. สืบทราบว่า กลับมาบวชใหม่อีกครั้ง แล้วหนีลงไปจำวัดที่ภาคใต้ อยู่ที่ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี จึงวางแผนและออกติดตาม จนสามารถจับกุมตัว ได้ที่ วัดสายวารี ต.เสด็จ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี แต่ยังปากแข็งให้การปฏิเสธ จึงเชิญตัวให้พระสังฆาธิการ จับศึก และนำตัวส่งดำเนินคดี ที่ สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย