ทายาทตระกูล "มหากิจศิริ " เผยตลาดอสังหาฯเข้าสู่ยุคการปรับเปลี่ยน ทั้งปัจจัยการเมือง LTV กระทบกำลังซื้อในประเทศ นักเก็งกำไร นักลงทุน ยอดลดลง เผยกลยุทธ์พัฒนาโครงการ เลือกทำเลที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น ชี้โครงการ ' เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71' มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ยอดขายไปแล้ว 70% พร้อมคิกออฟก่อสร้างตามแผน ด้าน " แคปปิตอล วัน " เอเจนท์รายใหญ่ ระบุทำเลพระโขนงมาแรง ราคาโดน ผลตอบแทนดี มั่นใจปิดโครงการไตรมาส 3 ปีนี้
นางสาวอุษณา มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทยในกลุ่มลูกค้าในประเทศว่า มีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเลือกตั้งที่เพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ รวมถึงภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับ ที่คาดว่าจะประกาศใช้ในปี 2563 ยังคงอยู่ขั้นตอนการวางแผนและยังไม่เสร็จสิ้น ทั้งมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ที่เข้มงวดมากขึ้น การกำหนดวงเงินดาวน์สูงขึ้น ทำให้ตลาดที่พักอาศัยชะลอตัวลง ความต้องการจากนักเก็งกำไรและนักลงทุนที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่าจะลดลง จากความต้องการภายในประเทศที่ลดลง ส่งผลให้ผู้พัฒนาโครงการหันไปเน้นผู้ซื้อต่างชาติ ที่ใช้เงินทุนของตนเองในการซื้อคอนโดมิเนียม
สำหรับโดยแนวโน้ม(เทรนด์)ที่อยู่อาศัยในอนาคต กำลังเดินเข้าสู่ภาวะการ “ปรับเปลี่ยน” ด้วยปัจจัยหลากหลาย ทั้งการเข้ามาลงทุนของต่างชาติและเทคโนโลยี ที่มีบทบาทในการพัฒนาโครงการเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ บริษัทฯมีความเชื่อมั่นสภาพตลาดที่อยู่อาศัยบนทำเลศักยภาพ ที่แนวโน้มมูลค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลานั้น ยังคงมีความต้องการที่ต่อเนื่องจาก ที่มุ่งมั่นพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ภายใต้ แบรนด์ เดอะเนสท์ ที่ประสบความสำเร็จจากโครงการ เดอะเนสท์ เพลินจิต และ เดอะเนสท์ สุขุมวิท 22 มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมั่นใจ โครงการเดอะเนสท์สุขุมวิท 71 นี้ บริษัททุ่มทุนกว่า 2,000 ล้านบาท จะมีผลตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ เนื่องจากราคาขายค่อนข้างต่ำเฉลี่ยแสนต้นๆ ทำให้ยอดขายได้ 70% แล้ว คาดการก่อสร้างจะแล้วเสร็จตามแผนภายในปลายปี 2563
นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท แคปปิตอลวัน เรียลเอสเตท จำกัด ( CAPITAL ONE Real Estate) บริษัทตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์และที่ปรึกษาด้านการบริการตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย มีพอร์ตดูแลถึง 30,000 ล้านบาท เปิดเผยว่า เมื่อราคาคอนโดมิเนียมในโซนทองหล่อ–เอกมัย ราคาต่อตารางเมตร (ตร.ม.) สูงกว่า 200,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งเกินกำลังซื้อของคนทำงาน ส่วนใหญ่สุดท้ายต้องหาทำเลรองลงมา จะเป็นส่วนต่อขยาย / ชานเมืองตามงบประมาณของแต่ละคน ทำให้โครงการ เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71 เป็นโครงการที่สามารถตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่ม และด้วยศักยภาพของทำเลในโซนพระโขนง ที่ยังสามารถไปต่อได้บนราคาที่เหมาะสม ทำให้อัตราผลตอบแทน ( Yeild ) มีอนาคต ซึ่งที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 70% เชื่อว่าโครงการนี้จะสามารถปิดโครงการ ( Sold out ) ได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้
นางสาวอุษณา มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทยในกลุ่มลูกค้าในประเทศว่า มีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเลือกตั้งที่เพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ รวมถึงภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับ ที่คาดว่าจะประกาศใช้ในปี 2563 ยังคงอยู่ขั้นตอนการวางแผนและยังไม่เสร็จสิ้น ทั้งมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ที่เข้มงวดมากขึ้น การกำหนดวงเงินดาวน์สูงขึ้น ทำให้ตลาดที่พักอาศัยชะลอตัวลง ความต้องการจากนักเก็งกำไรและนักลงทุนที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่าจะลดลง จากความต้องการภายในประเทศที่ลดลง ส่งผลให้ผู้พัฒนาโครงการหันไปเน้นผู้ซื้อต่างชาติ ที่ใช้เงินทุนของตนเองในการซื้อคอนโดมิเนียม
สำหรับโดยแนวโน้ม(เทรนด์)ที่อยู่อาศัยในอนาคต กำลังเดินเข้าสู่ภาวะการ “ปรับเปลี่ยน” ด้วยปัจจัยหลากหลาย ทั้งการเข้ามาลงทุนของต่างชาติและเทคโนโลยี ที่มีบทบาทในการพัฒนาโครงการเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ บริษัทฯมีความเชื่อมั่นสภาพตลาดที่อยู่อาศัยบนทำเลศักยภาพ ที่แนวโน้มมูลค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลานั้น ยังคงมีความต้องการที่ต่อเนื่องจาก ที่มุ่งมั่นพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ภายใต้ แบรนด์ เดอะเนสท์ ที่ประสบความสำเร็จจากโครงการ เดอะเนสท์ เพลินจิต และ เดอะเนสท์ สุขุมวิท 22 มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมั่นใจ โครงการเดอะเนสท์สุขุมวิท 71 นี้ บริษัททุ่มทุนกว่า 2,000 ล้านบาท จะมีผลตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ เนื่องจากราคาขายค่อนข้างต่ำเฉลี่ยแสนต้นๆ ทำให้ยอดขายได้ 70% แล้ว คาดการก่อสร้างจะแล้วเสร็จตามแผนภายในปลายปี 2563
นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท แคปปิตอลวัน เรียลเอสเตท จำกัด ( CAPITAL ONE Real Estate) บริษัทตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์และที่ปรึกษาด้านการบริการตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย มีพอร์ตดูแลถึง 30,000 ล้านบาท เปิดเผยว่า เมื่อราคาคอนโดมิเนียมในโซนทองหล่อ–เอกมัย ราคาต่อตารางเมตร (ตร.ม.) สูงกว่า 200,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งเกินกำลังซื้อของคนทำงาน ส่วนใหญ่สุดท้ายต้องหาทำเลรองลงมา จะเป็นส่วนต่อขยาย / ชานเมืองตามงบประมาณของแต่ละคน ทำให้โครงการ เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71 เป็นโครงการที่สามารถตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่ม และด้วยศักยภาพของทำเลในโซนพระโขนง ที่ยังสามารถไปต่อได้บนราคาที่เหมาะสม ทำให้อัตราผลตอบแทน ( Yeild ) มีอนาคต ซึ่งที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 70% เชื่อว่าโครงการนี้จะสามารถปิดโครงการ ( Sold out ) ได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้