วันนี้ (10 ก.ค.62) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า วันอังคารที่ 16 ก.ค.และวันพุธที่ 17 ก.ค.62 เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา คือวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ซึ่งในวันสำคัญกล่าวนี้ ทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีประกาศลงวันที่ 5 ก.พ.58 เรื่อง กําหนดวันห้ามขายเครื่องดื่ม ที่ 3 ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันเข้าพรรษา วันอาสาฬหบูชา และวันออกพรรษา ยกเว้นการขาย เฉพาะร้านค้า ปลอดอากรภายในอาคารการท่าอากาศยานนานาชาติ และจะปีที่ผ่านมา สธ. ในฐานะ ที่เป็นหน่วยรับผิดชอบควบคุมกำกับดูแลตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ 2551 ได้มีการสุ่มตรวจสถานบริการสถานประกอบการ ร้านค้า ยังพบว่า มีการฝ่าฝืน กระทำความผิดอยู่ในหลายพื้นที่ เป็นประจำทุกปี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวอีกว่า เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมาย ในวันสำคัญทางศาสนา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บังเกิดผลอย่างจริงจัง ตามนโยบายของรัฐบาล กำชับดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องดังนี้ ขึงประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนผู้ประกอบการร้านค้าทุกประเภทอาทิร้านค้าชุมชนร้านสะดวกซื้อห้างสรรพสินค้าร้านอาหารที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สถานบริการและสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการให้งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดทั้งขายส่งและขายปลีกทั่วราชอาณาจักรตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาคือหลังเวลา 24.00 นของคืนวันที่ 15 กพ 62 จนไปถึงเวลา 24.00 นของคืนวันที่ 17 กพ. 62 ยกเว้นการขายเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ ให้กวดขันจับกุมผู้กระทำความผิด ที่ฝ่าฝืน กฎหมายและประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี อย่างจริงจัง เมื่อปรากฏเป็นความผิดชัดเจน ในเรื่องการจำหน่าย การดื่มในสถานที่ห้าม เน้นการตรวจจับกุมร้านค้าของชำขนาดใหญ่ในพื้นที่ร้านข้าวต้มโต้รุ่งคาราโอเกะ ร้านลาบส้มตำริมทาง บริเวณสถานีขนส่ง บริเวณสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง วัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา และสวนสาธารณะของทางราชการที่จัดไว้เพื่อการพักผ่อนของประชาชนโดยทั่วไป ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณถนนสายหลักซึ่งเป็นที่ตั้งสถานบริการในช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อนเวลา 24.00 นและตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดสอบสวนขยายผลเพื่อจับกุม ผู้จำหน่ายสุราที่ฝ่าฝืนกฎหมายและประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีอย่างจริงจัง ให้จัดสายตรวจออกตรวจสอบ สถานบริการสถานประกอบการและร้านอาหารในพื้นที่รับผิดชอบหากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ของ สธ. ในการออกตรวจจับผู้กระทำความผิดเมื่อได้รับการร้องขอหรือขอรับการสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง ดังกล่าว