พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยราษฎรทุกหมู่เหล่า เฉพาะอย่างยิ่งราษฎรในท้องถิ่นกันดารห่างไกล ซึ่งส่วนหนึ่งยังประสบปัญหาขาดแคลนปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต ได้แก่แหล่งน้ำเพื่อเป็นเครื่องมือพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถดำรงชีวิตมีความสุขอย่างยั่งยืนด้วยวิถีแห่งความพออยู่พอกินซึ่งหัวใจสำคัญในการเกื้อกูลให้เกิดแหล่งน้ำและคงสภาพน้ำไว้ได้ไม่เหือดแห้งไป สร้างความชุ่มชื้นในพื้นที่ท้องถิ่นเพื่อให้ความเจริญงอกงามแก่สรรพชีวิตคือทรัพยากรป่าไม้ ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงเอาพระราชหฤทัยใส่โดยทรงดำเนินพระองค์ปลูกป่า ผ่านโครงการตามพระราชดำริมากมายโดยทรงเน้นย้ำการไม่ตัดไม้ทำลายป่าหากแต่อยู่ร่วมกับป่าอย่างเกื้อกูลกัน ทำให้วันนี้พื้นที่ป่าจำนวนมากที่ถูกทำลายไปกลับฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์เป็นเครื่องมือให้สามารถสร้างประโยชน์สุขแก่ราษฎรโดยวิถีพอเพียงพออยู่พอกินและช่วยกันบำรุงรักษาป่ารักษาแหล่งน้ำในฐานมรดกของประเทศชาติ ด้วยทรงตระหนักถึงความสำคัญแห่งพระราชปณิธานการสร้างประโยชน์สุขแก่ราษฎรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงตั้งพระราชหฤทัย สืบสาน รักษา ต่อยอด โดยพระราชทานพระบรมราโชบายให้ทุกภาคส่วนร่วมกันพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทั้งป่าไม้ แหล่งน้ำในแต่ละท้องถิ่นภูมิภาคให้สามารถเอื้อประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนำประโยชน์สุขสู่ราษฎรที่ประสบปัญหาขาดแคลนปัจจัยดังกล่าวโดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำเนินการติดตามขับเคลื่อนโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและโครวการตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง โดยกองประชาสัมพันธ์สำนักงาน กปร.ให้ข้อมูลว่า วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2562 เวลา 16.30 น. พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคกลาง พร้อมด้วยพลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี และคณะอนุกรรมการฯ สนองพระราชประสงค์เดินทางไปยังโครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อติดตามความก้าวหน้า รับฟังการบรรยายสรุปผลโครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชเสาวนีย์สนับสนุนให้มีการปลูกพันธุ์ไม้ต่าง ๆ บริเวณชายทะเลปากน้ำปราณบุรี เพื่อพัฒนาเป็นป่าอเนกประโยชน์ผลิตไม้ ป้องกันลมพายุ เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรหมู่บ้านปากน้ำปราณบุรี เมื่อปี 2517 ต่อมา กรมป่าไม้ ได้ดำเนินการจัดตั้ง “โครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีตามพระราชประสงค์” ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองเก่า - คลองคอย เพื่อดำเนินการตามพระราชเสาวนีย์ โดยตั้งแต่ปี 2540 สำนักงาน กปร. สนับสนุนงบประมาณให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช (เดิมคือกรมป่าไม้) ดำเนินการฟื้นฟูสภาพป่าชายเลน จัดทำแปลงศึกษา และรวบรวมพันธุ์ไม้ป่าชายหาด รวมทั้งจัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป้ายสื่อความหมาย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติป่าชายเลน นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินีขึ้น ภายในพื้นที่โครงการฯ เพื่อเป็นตัวอย่างของการบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา ชุมชนโดยรอบศูนย์ฯ ปัจจุบันป่าชายเลนที่เคยเสื่อมโทรมได้รับการฟื้นฟูให้กลับอุดมสมบูรณ์ สัตว์น้ำที่เคยหายไปจากพื้นที่กลับคืนมา เช่น ปลาเสือ ปลานวลจันทร์ และปลาน้ำดอกไม้เป็นต้น รวมทั้งสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น เลียงผา กวางป่า นกยูง และไก่ป่า ทำให้ประชาชนในพื้นที่โครงการฯ มีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากการประมง และการเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่น โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ ทรงให้ความสนพระราชหฤทัยเสด็จฯ ทรงติดตามการดำเนินงานนับตั้งแต่ปี 2517 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 9 ครั้ง พร้อมกับพระราชทานแนวทางการพัฒนาโครงการให้เกิดประโยชน์ต่อทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากนั้น องคมนตรี ร่วมปลูกต้นไม้ และพบปะเยี่ยมตัวแทนกลุ่มราษฎรรับทราบชีวิตความเป็นอยู่การประกอบอาชีพ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากโครงการฯ