สมาร์ท ไอดี กรุ๊ปจัดงาน“anitech Innovation turns on your life” IOT Platform with Data Analytics เปิดตัวปลั๊ก anitech IOT ตอบโจทย์ความสะดวกสบาย และการันตีความปลอดภัยผ่าน มอก.พร้อมสาธิตการใช้งานเป็นครั้งแรกด้วยการควบคุมการสั่งงานผ่าน anitech IOT Application รองรับระบบปฏิบัติการทั้ง IOS-Android เจาะกลุ่มผู้บริโภคระดับบีบวกอัพ ตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมปลั๊กไฟไทย นายโธมัส-พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ ประเภทคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ภายใต้แบรนด์ “แอนิเทค” (anitech)เปิดเผยว่า แนวความคิดเริ่มต้นของการออกแบบปลั๊ก anitech IOT เกิดจากการนึกถึง Sunlight แสงอาทิตย์แรกยามเช้า นั่นคือแสงแห่งชีวิตได้ตื่นขึ้นมาพบกับแสงวันใหม่พร้อมเติมเต็มพลังให้กับทุกๆ ชีวิต ทั้งนี้แอนิเทคจึงเลือกที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่ทรงพลังด้วยการผสานเอกลักษณ์ในเชิงวัฒนธรรมกับความร่วมสมัย สะท้อนความเป็นมืออาชีพ และมาตรฐานสากลเข้าด้วยกันภายใต้แนวความคิด“นวัตกรรมด้านการดีไซน์ผสานความเป็นไทย เพื่อคนไทย” จึงออกมาเป็นตัวปลั๊กล้ำสมัยอย่าง anitech IOT เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความสุขคู่บ้านคุณอย่างแท้จริง “ในยุคปัจจุบันต้องยอมรับว่าเป็นยุคของ IOT (Internet of Things) อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน ด้วยการใช้เพียงอุปกรณ์เดียวสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้หลากหลาย แอนิเทคจึงได้พัฒนาระบบการเชื่อมต่อแอปพลิเคชันที่มีรูปแบบเรียบง่าย แต่มอบประสบการณ์ความสะดวกสบายสูงสุด เพื่อการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดขึ้นภายในบ้านอัจฉริยะ” โดยเทรนด์ของผู้บริโภคปัจจุบันการใช้งานแบบ IOT จะมีอยู่ 2 ปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดการซื้อมากที่สุด ร้อยละ 75 ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ได้รับจากการใช้งานร้อยละ 68 เป็นการพิจารณาถึงประสิทธิภาพในการใช้งานที่คุ้มค่า เทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดที่มาพร้อมความปลอดภัยและขาดไม่ได้ในเรื่องของความสะดวกสบาย ซึ่งปลั๊ก anitech IOT คือคำตอบ สำหรับก่อนหน้านี้ แอนิเทคได้ทดลองพัฒนาปลั๊ก anitech IOT ในรุ่น H900 โดยใช้ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์จากต่างประเทศ ภายหลังได้พบปัญหาการพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ต่อเนื่องจากทีมพัฒนา จึงตัดสินใจจัดตั้งทีมพัฒนาสินค้าขึ้นเองในปลั๊ก anitech IOT รุ่น H1000 ออกแบบมาเป็น 4 Socketsปุ่มเปิด-ปิด เป็นแบบ Touch Screen ตอบโจทย์เรื่องดีไซน์ที่ทันสมัยเหมือนได้ฟังก์ชันเป็นของตกแต่งบ้าน นอกจากความหรูหราสวยงาม ส่วนฟังก์ชันการใช้งาน แบ่งออกเป็น 4 ฟังก์ชันได้แก่ 1.ฟังก์ชันการตั้งค่าการเปิด-ปิด 2.ฟังก์ชันการเปิด-ปิดล่วงหน้าโดยระบุวันและเวลาได้ 3.ฟังก์ชันการตั้งค่าเปิด-ปิดแถมตั้งเวลานับถอยหลัง 4.ฟังก์ชัน Power Consumption คือการแสดงค่าการใช้กำลังไฟฟ้าแบบ Real-Time พร้อมดูสถิติการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าย้อนหลังสูงสุดได้ถึง 3 เดือนได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านช่องทางของแอปพลิเคชัน anitech IOT Application บนสมาร์ทโฟนทั้งระบบ IOS และ Android เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะอยู่ภายในบ้านและนอกบ้านก็สามารถควบคุมได้ “แอปพลิเคชันยังถูกออกแบบ User Interface ทั้งหมดด้วยทีมดีไซน์คนไทย รวมถึงการเขียนและวางโครงสร้างแอปพลิเคชันเป็นคนไทย Cloud Server ก็อยู่ในประเทศไทย ข้อดีคือเมื่อเกิดปัญหาในการใช้งาน ด้านการ Service จะง่ายต่อการแก้ไขและประสานงาน พูดได้เต็มปากว่านวัตกรรมโดยคนไทยเพื่อคนไทย ในส่วนราคาของปลั๊ก anitech IOT เปิดตัวอยู่ที่ 2,590 บาท พร้อมการันตีด้วยวงเงินการรับประกันความเสียหายสูงสุด5 แสนบาท นานถึง 1 ปี” ทั้งนี้ในอนาคตแอนิเทคจะมีการพัฒนาปลั๊ก anitech IOT ให้มีระบบเซนเซอร์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น อาทิ เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ การวัดแสง และการตรวจจับความเคลื่อนไหว มาเป็นข้อมูลใช้งานในการเปิด-ปิดปลั๊กไฟเมื่อมีการเคลื่อนไหว ซึ่งลูกค้าสามารถกำหนดเงื่อนไขการทำงานได้อย่างอิสระมากขึ้น โดยปัจจุบันแอนิเทค ได้ทำการต่อยอดพัฒนาในรูปแบบของ B2B ซึ่งสามารถเข้าถึงประเภทธุรกิจ Logistics,Smart City,Retail,Factory,Food,Hospital,Smart Building โดย IOT Platform with Data Analytics สามารถเก็บข้อมูลประเมินผลและวิเคราะห์ช่วยวางแผนแจ้งเตือนถึงความผิดปกติสามารถควบคุม ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น,ลดปัญหาการทำงานที่ไม่จำเป็นลง,ได้ Data ที่สำคัญมาวิเคราะห์ธุรกิจ โดยทาง anitech ได้ทำการทดสอบการทำงานกับ Partner ประเภทร้านอาหารที่มาสาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมี Service level ตลอด 24 ชั่วโมง ต่อ 7 วัน ไม่มีวันหยุด Service Maintenance ระดับมืออาชีพ พร้อมบริการหลังการขายในการให้ข้อมูลคำแนะนำต่าง ๆ ในการใช้งานได้รวดเร็ว ซึ่งเรามีทีมพัฒนา App และ Firmware เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการใช้งานและทำการ Update ให้ผู้ใช้งานอยู่เสมอ ขณะที่ในส่วนของมาตรฐานทาง Cyber security มีการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสาร หรือส่งข้อมูลระหว่าง Server กับแอปพลิเคชัน ซึ่งจะใช้การเข้ารหัส TLS 2048 บิต เป็นมาตรฐานของ Server สากล ส่วนของการรับ-ส่ง ข้อมูลของตัวปลั๊กมีการตรวจสอบ และระบุตัวตนของปลั๊กอย่างปลอดภัย ด้วยมาตรฐาน jwt ecc256 การควบคุมด้วยคำสั่งเสียง และ data analytics dash board สำหรับ B2B ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน สำหรับ B2B ให้สามารถแสดงข้อมูลต่างๆแบบ Real-time และเพิ่มการทำงานของ Sensor รูปแบบต่างๆ นำข้อมูลมาผ่านกระบวนการ Data Analytics โดยจะแสดงในรูปแบบ Dash Board เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบสถานะการพัฒนาในเวอร์ชั่นถัดไปของแอปพลิเคชัน โดยจะพัฒนาให้ มีการควบคุมด้วยคำสั่งเสียงผ่าน Google Home หรือ Amazon Alexa สำหรับในส่วนภาพรวมของ บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมายอดขาย ในปี 2561 อยู่ที่ 330 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนชิ้นอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านชิ้น เติบโตจากปี 2560อยู่ที่ 25% งบประมาณการตลาดปีนี้อยู่ที่ 45 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของรายได้ประมาณการณ์ในปีนี้ โดยงบประมาณส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนานวัตกรรมของสินค้าในครึ่งปีหลัง บุกตลาดปลั๊ก anitech IOT หรือเป็น Product Highline และตั้งเป้ายอดขายปลายปี 2562 ไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท