เมื่อเวลา 19.30 น.วานนี้ (4 ก.ค.62) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง มีเหตุพนังกั้นน้ำของแนวก่อสร้างอาคาร ประตูระบายน้ำชลหารพิจิตรหลังใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่5 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ได้เกิดพังถล่มลงมาทำให้ปริมาณน้ำทะเลที่หนุนไหลทะลักเข้าท่วมบ้านพักพนักงานกรมชลประทานและชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่กว่า 50 หลังคาเรือนในพื้นที่กว่า 10 ไร่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ข้าวของได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมทั้งรถแมคโครที่อยู่ในสถานที่ก่อสร้างอาคารประตูระบายน้ำถูกน้ำท่วมจนมิดได้รับความเสียหายไปจำนวน 4 คัน โดยมีอาสามูลนิธิป่อเต๊กตึ้งและหน่วยบรรเทาสาธารณภัยนำเรือท้องแบนเข้าให้การชาวบ้านออกมาอยู่บนที่สูง ด้านนายสมใจ ศรีสุข อดีตข้าราชการบำนาญชลประทานชลหารวิจิตร ได้เล่าว่า พนังกั้นน้ำของแนวก่อสร้างอาคารสถานีสูบน้ำป้องกันน้ำท่วมด้านทิศเหนือ และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และบังเอิญในวันนี้มีน้ำทะเลขึ้นสูงกว่าปกติ ก็เลยทำให้พนังกั้นน้ำของแนวก่อสร้างซึ่งมีลักษณะเหมือนแผ่นเหล็กชิปพลาย ถูกน้ำทะเลดันเข้ามาจนพังถล่มลงมา ทำให้ปริมาณน้ำทะเลไหลทะลักเข้าท่วมบ้านพักของเจ้าหน้าที่ชลประทานและชาวบ้านที่มีอยู่ประมาณ 40-50หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วม ซึ่งตอนแรกท่วมสูงกว่า 1 เมตร ในบางจุด แต่หลังจากหลังจากเวลาผ่านไปกว่า 1-2 ชั่วโมงปริมาณน้ำทะเลได้เริ่มลดลง หลังเกิดเหตุชาวบ้านต่างพากันขนข้าวของหนีหนีกันอลหม่านแต่ไม่ทันถูกน้ำไหลเข้าท่วมได้รับความเสียหายทั้งหมด ชาวบ้านหลายคนยังติดอยู่ในบ้านมูลนิธิกำลังใช้เรือท้องแบนเข้าไปช่วยเหลือออกมา ด้านนางฉลวย ขาวหอมกลิ่น อายุ 50 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมบ้าน ได้เล่าว่า มีคนงานก่อสร้างวิ่งมาบอกให้รีบเก็บข้าวของข้นที่สูงและให้รีบถอยรถขึ้นที่สูง เพราะเขื่อนกั้นน้ำแตก น้ำเค็มทะลักเข้ามาแล้ว ตนก็เลยวิ่งไปตะโกนบอกตามบ้านหลังอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้กัน พอกลับมา น้ำก็ไหลเข้ามาแล้วเก็บอะไรไม่ทันกันเลย เวลาแค่แป๊บด้วยไม่ถึง 10 นาที ปริมาณน้ำเข้ามาสูงกว่า 1 เมตรที่ทะลักเข้าไปในบ้านสูงจนถึงเอวในช่วงพริบตา ตั้งแต่ตนอยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุ 7 ขวบจนถึงวันนี้ตนอายุ 50 แล้วเพิ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ นายประเสริฐ แปลสูงเนินอายุ 66 ปี เล่าให้ฟังว่า ขณะที่ตนเองลงตาข่ายดักปลาอยู่ภายในคลองด่าน ใกล้กับพนังกั้นน้ำ อยู่ๆ กระแสน้ำก็ไหล พัดเรือของตนเข้ามาใน พื้นที่บ้านพักของข้าราชการชลประทาน ซึ่งตนเองตกใจมาก เนื่องจากอยู่ใกล้กับที่พนังกั้นน้ำพัง ตอนแรกพยายาม พายเรือออกจากจุดดังกล่าวแต่ไม่สามารถทานกระแสน้ำที่ไหลแรงได้ รู้สึกตกใจมาก คิดว่าเกิดเหตุการณ์สึนามิ เพิ่งมาทราบภายหลังว่าพนังกั้นน้ำนั้นพัง ต่อมาเมื่อเวลา 23.00 น.นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ บริเวณจุดที่มีการอพยพชาวบ้านออกมา พร้อมสั่งการณ์ให้ทุกหน่วยงาน เร่งเข้าให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ พร้อมให้เจ้าหน้าที่ชลประทาน ทำการเดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ทางด้านทิศใต้ เพื่อระบายน้ำออกจากจุดที่เกิดเหตุ เนื่องพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเป็นที่ต่ำแอ่งกระทะ และจะสำรวจความเสียหายพร้อมกับหาแนวทางแก้ไข พร้อมสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร็ว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้กล่าวว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากพนังกั้นน้ำ ในจุดที่กำลังก่อสร้างประตูระบายน้ำ ถูกปริมาณน้ำทะเลสูงสุดถึง 3.7 เมตรดันจนพนังกั้นน้ำพังถล่มลงมา ทำให้ปริมาณน้ำทะลักเข้ามา และท่วมบ้านพักของข้าราชการชลประทานโครงการชลหารวิจิตรในเวลานี้ ที่มีอยู่กว่า 40 หลังคาเรือน และขณะนี้ปริมาณน้ำเริ่มลดลงเพราะน้ำทะเลกำลังลดระดับลงไป ก็คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 ชั่วโมงรอให้ปริมาณน้ำลงให้มากที่สุดเราก็จะเริ่มสูบน้ำออก ขณะนี้ก็อพยพคนออกมาเกือบหมดแล้ว และจากการสอบถามแล้วชาวบ้านไม่ประสงที่จะไปพักที่หอประชุมที่เราจัดเตรียมไว้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชลประทานกำลังเตรียมเครื่องสูบน้ำตามสถานีที่อยู่ริมทะเลทั้งหมดที่มีอยู่ ช่วยระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด ส่วนชุมชนที่อยู่ใต้น้ำจากจุดนี้ลงไป ทางเจ้าหน้าที่ชลประทานได้มีการประกาศเตือนให้เฝ้าระวังแล้ว แต่คาดว่าน่าจะไม่มีผลกระทบแน่นอน เพราะจุดนี้มันเป็นแอ่งกระทะหรือเป็นเกาะอยู่พอดี และได้มีการสั่งการให้มีการทำพนังกั้นน้ำที่เกิดเหตุแห่งนี้ให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นรวมทั้งจุดอื่น ๆเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก