“ครูแก้ว” ชี้ญัตติสอบที่มา ส.ว. สภาฯไม่มีอำนาจพิจารณา ไม่หวั่นฝ่ายค้านเอาเป็นประเด็นโจมตี ยันทำหน้าที่กรรมการดีที่สุด ขณะที่เพื่อไทย ยังดื้อ ยื่นศึกษาแนวทางการได้มาซึ่ง ส.ว. รอบ 2 ขู่ยื่น ปปช. สอบการทำหน้าที่ประธานสภาฯ หากญัตติตกอีก เมื่อวันที่ 3 ก.ค.62 ที่หอประชุมใหญ่ ทีโอที นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า สภาผู้แทนราษฎร ไม่รับญัตติของ พรรคฝ่ายค้าน จำนวน 3 ญัตติที่เสนอโดย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย, นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ที่ยื่นให้ตรวจสอบกระบวนการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไว้พิจารณาและบรรจุในระเบียบวาระการประชุม หลังจากที่ได้ทบทวนรายละเอียด จำนวน 2 รอบ ซึ่งหารือกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ และ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย เนื่องจากญัตติดังกล่าวถือไม่อยู่ในอำนาจและหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรที่จะพิจารณา ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ​มาตรา 129 โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ทำหนังสือแจ้งไปยัง ผู้นำที่ยื่นญัตติทั้ง 3 แล้ว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการพิจารณาดังกล่าวเป็นไปอย่างรอบคอบ ตามกรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ตนไม่กังวลว่า กรณีไม่บรรจุญัตติดังกล่าวจะทำให้ส.ส.พรรคฝ่ายค้านนำไปโจมตีว่าเข้าข้าง หรือ ปกป้องฝ่ายใด “ผมทำหน้าที่เป็นกรรมการ เหมือนกรรมการฟุตบอล หรือ กรรมการชกมวย ถือเป็นผู้ตัดสินไม่ใช่ ลงไปเป็นคู่ชก ดังนั้นญัตติที่ ส.ส. เสนอเข้าสู่การพิจารณาต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง หากเรื่องใดที่เป็นไปตามอำนาจและหน้าที่ และไม่ขัดกับกฎหมาย ต้องถูกพิจารณาและบรรจุในวาระประชุม”​ นายศุภชัย กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุดพรรคเพื่อไทยยื่นญัตติด่วนให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาต่อแนวทางการได้มาซึ่ง ส.ว. จะสามารถพิจารณาได้หรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด เบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ในการพิจารณาของเจ้าหน้าทีก่อนส่งเรื่องให้ตนพิจารณา อย่างไรก็ตามตนจะใช้การพิจารณาตามกรอบและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ นายสุทิน กล่าวยอมรับว่า ตนได้รับหนังสือจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ต่อกรณีที่ไม่บรรจุญัตติที่ตนเสนอแล้ว ซึ่งเหตุผลที่ระบุไว้ในหนังสือ คือ ไม่อยู่ในอำนาจที่สภาผู้แทนราษฎรจะทำได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 อย่างไรก็ตามล่าสุด นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ยื่นญัตติด่วนเพื่อศึกษาแนวทางการได้มาซึ่ง ส.ว. ตนยังรอพิจารณาว่า สภาฯ จะบรรจุญัตติให้ได้หรือไม่ โดยมีระยะเวลาการรอคำตอบ จำนวน 5 วันตามข้อบังคับการประชุม และหากสภาฯ ไม่บรรจุญัตติดังกล่าว ตนจะพิจารณาต่อแนวทางที่จะยื่นแจ้งความ หรือยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของประธานสภาฯ ต่อไป