ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ระบุ จนท.ตามขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนมาเป็นเดือนก่อนจู่โจมจับขยายผลยึดคลังน้ำมันที่ขนอม-เร่งขยายผลตัวการใหญ่ก่อน ม.44 จะใช้ไม่ได้ พลโทจตุพร กัมพสุต ผอ.สขว.กอ.รมน.ภาค 4 นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าขยายผลเครือข่ายน้ำมันเถื่อนหลังจากถูกจับกุมได้ บริเวณอ่าวท้องโหนด ต.ท้องเนียน อ.ขนอม นครศรีธรรมราช ขณะที่เจ้าหน้าที่ ได้มีการสอบเค้นนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 ม.9 ต.พรายวาด อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฏร์ ธานี ซึ่งเป็นไต๋ก๋งเรือและเป็นน้องชายของโกชัยเจ้าของเรือประมง นายฉัตรชัยได้รับสารภาพว่ามีโกดังเก็บน้ำมันเถื่อนอยู่ที่บริเวณบ้านท่าม่วง ม.1 ต.ท้องเนียน หลังจากเข้าตรวจสอบบริเวณโกดังซึ่งมีการทำนากุ้งอยู่ด้วย พบรถบรรทุกน้ำมันของบ.ยนต์ศิลป์บริการจำกัดทะเบียน 703-6694 สุราษฎร์ธานี ในแท้งบรรทุกน้ำมันมีน้ำมันบรรจุอยู่ 7,500 ลิตรจึงได้มีการตรวจยึดโดยทราบว่าจุดดังกล่าวเป็นโกดังเก็บน้ำมันก่อนจะนำไปส่งตามปั๊มต่างๆ พลโทจตุพรเปิดเผยว่า เราได้มีการติดตามตั้งแต่การจับกุมครั้งก่อนที่อ.ท่าศาลา ซึ่งเราพบว่ามีการลักลอบกันหลายจุดตามแนวชายฝั่งทะเลโดยจะมีการลักลอบนำเรือประมงดัดแปลงเพื่อพรางตาจนท.แล้วจะนำมาขึ้นตามชายฝั่งหลายจุดแล้วเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆซึ่งเราได้ติดตามมาเป็นเดือนแล้วพร้อมกับหน่วยงานต่างๆซึ่งการดำเนินการทั้งหมดมาจากคำสั่งของรองนายกพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ ,ผบ.ทบ.ที่ให้ปราบปรามการลักลอบสินค้าหนีภาษีทั้งแนวชายแดนซึ่งผลการปราบรามตามแนวชายแดนทำให้สินค้าทางการเกษตรมีราคาสูงขึ้นส่วนเรื่องของน้ำมันเถื่อนนั้นเราได้ติดตามมาเพราะมีการร้องเรียนมาจากผู้บริโภคหลายรายว่าใช้แล้วเครื่องยนต์เสียหาย จากการสืบสวนพบว่าน้ำมันที่ลักลอบนำเข้ามามีการปลอมปนสารบางตัวเพื่อให้สีน้ำมันเปลี่ยนและค่าบางตัวเปลี่ยนซึ่งเมื่อปนเข้าไปทำให้เครื่องยนต์เสียหาย ทำให้สูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมากเพราะเราสูญเสียรายได้จากภาครัฐคือภาษีแล้วเครื่องยนต์เสียหายก็สูญเสียทางเศรษฐกิจด้วย ซึ่งถ้ารวมทั้งหมดเป็นมูลค่ามหาศาล ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน 8 หมื่นลิตรและโกดังน้ำมันที่นำไปพักไว้และเราก็ได้หลักฐานสถานบริการน้ำมันหลายแห่งที่ลักลอบรับน้ำมันเหล่านี้ไปขาย ซึ่งกระบวนการนี้จะไม่หยุดแค่นี้ แม่ทัพภาคที่ 4ได้ มีนโยบายให้ขยายผลไปยังผู้อยู่เบื้องหลังและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งการจับกุมที่นครศรีธรรมราช ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้แต่หากเป็นพื้นที่ 3 จังหวัดก็อาจจะเชื่อมโยงกัน ซึ่งการขยายผลนั้นการจับกุมครั้งก่อนที่ อ.ท่าศาลา ก็สามารถขยายผลไปยังผู้อยู่เบื้องหลังเป็นคนอ.หาดใหญ่ สงขลาก็เข้าสู่กระบวนการศาลแล้ว.