ถูกยกให้เป็น “ผู้นำสหรัฐอเมริกา” ที่มักจะทำอะไร “พลิกหน้าประวัติศาสตร์” อย่างที่ไม่มี “ประธานาธิบดีของชาวอเมริกัน” เขาทำกันอยู่บ่อยครั้ง สร้างเซอร์ไพรส์ให้โลกได้เห็นกันอยู่เรื่อยเป็นประจำ
สำหรับ “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบัน”
ยกตัวอย่างเมื่อปีก่อน ที่ได้มีประชุมสุดยอด หรือซัมมิต แบบทวิภาคี สองต่อสอง กับ “ประธานคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ” ซึ่งเปิดประเดิมกันที่ประเทศสิงคโปร์ โดยการซัมมิตข้างต้น ผู้สันทัดกรณีก็ชี้ว่า พลิกโฉมประวัติศาสตร์กันแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว เพราะไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนไหนในประวัติศาสตร์ กระทำกันเยี่ยงนี้ ที่ประธานาธิบดีอเมริกา จะไปพบหน้ากับผู้นำเกาหลีเหนือ ชาติคู่ปรปักษ์ ครั้ง “สงครามเกาหลี” เมื่อเกือบ 7 ทศวรรษก่อน เป็นอาทิ
ล่าสุด เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ได้พลิกหน้าประวัติศาสตร์กันอีกครั้ง โดยคราวนี้ เหล่าผู้สันทัดกรณีก็ชี้ว่า ถึงขั้นกระชากหน้าประวัติศาสตร์กันเลยทีเดียว
เมื่อปรากฏว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เดินทางมาพบปะ เช็กแฮนด์ กับ “ประธานคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ” ถึงถิ่นโสมแดง คือ นิกเนมของเกาหลีเหนือ อย่างที่ไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำกันมาก่อน ในระหว่างที่ยังนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีในทำเนียบขาว
โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ก้าวข้ามเส้นแบ่งพรมแดนเกาหลีเหนือ – เกาหลีใต้ บริเวณหมู่บ้านปันมุนจอม อันเป็น “เขตปลอดทหาร” หรือ “ดีเอ็มแซด (DMZ : Demilitarized Zone)” ก่อนเข้าพบปะเจรจาเพื่อคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งด้านอาวุธนิวเคลียร์ ในอันที่จะสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีในลำดับถัดไป ซึ่งจะได้ประมวลภาพอย่างชนิดพลิกโฉมกระชากหน้าประวัติศาสตร์ให้ได้รับชมกัน